ตม.นราฯแจ้งเตือนประชาชนช่วยเหลือต่างด้าวมีความผิด หลังพบลักลอบข้ามแดนหลังถูกมาเลย์ใช้กฏเหล็กกวาดล้างหนัก
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
ตม.นราฯแจ้งเตือนประชาชนช่วยเหลือต่างด้าวมีความผิด หลังพบลักลอบข้ามแดนหลังถูกมาเลย์ใช้กฏเหล็กกวาดล้างหนัก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ส.ค.66 พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส ร่วมกับ พ.ต.ท.สมศักดิ์ แสงสิน รอง ผกก.ตม.จว.นราธิวาส พ.ต.ต.กรัณฑ์วาริษฐ์ สว.ตม.จว.นราธิวาส พร้อมชุดสืบสวน ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวนายไสย์ฟูอามัน เจ๊ะแม อยู่บ้านเลขที่ 254 ม.1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรน่า สีบรอนส์ ทะเบียน กจ 2829 นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอยบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 30 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา โดยมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติอินเดีย จำนวน 3 คน คือ 1.นายอาจีต คูมาร์ อายุ 24 ปี 2.นายราจาย ดุบบาซี อายุ 54 ปี และ 3. นายรานจีท กูมาร์ อายุ 21 ปี นั่งโดยสารมาด้วย แต่เมื่อนายไสย์ฟูอามัน พบเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์หลบหนี ไปบนถนนเส้นทางตากใบ – สุไหงโกลก เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์ไล่ติดตาม แต่รถของนายไสย์ฟูอามัน เกิดเสียหลักตกลงไหล่ทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ให้การช่วยเหลือ พร้อมแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบและตรวจค้น
พบว่าผู้โดยสารทั้ง 3 คน เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติอินเดีย ที่ลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย หลังถูกทางการประเทศมาเลเซีย ได้ออกแผนกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่เขาไปทำงานโดยผิดกฏหมาย ซึ่งทั้ง 3 คนไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวบุคคลทั้ง 4 มาสอบสวนเพิ่มเติมที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส และแจ้งดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งมีใช่ช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือท้องที่ตามที่กำหนด ไม่ยื่นแบบรายการตามแบบและไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่
เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ใด้รับอนุญาต
ส่วนนายไสย์ฟูอามัน เจ๊ะแม เจ้าของรถยนต์เก๋ง ให้การรับสารภาพว่า ตนได้พบบุคคลต่างด้าวทั้ง 3 คน นั่งอยู่บริเวณศาลาใกล้ท่าเรือบ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ ได้พูดคุยและได้ว่าจ้างให้ตนมาส่งในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ในราคาคนละ 50 ริงกิต รวมเป็นเงินไทย ประมาณ 1,200 บาท ตนเห็นว่าห่างกันไม่กี่กิโลเมตรจึงได้รับการว่าจ้างและเห็นว่าเป็นเวลากลางคืนคงไม่มีเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจ จึงตกลงรับบุคคลทั้ง 3 โดยสารมาและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในที่สุด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.สุไหงโก-ลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.พูลศักดิ์ ผกก.ตม.จว.นราธิวาส กล่าวว่า จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน หากพบเห็นบุคคลต่างด้าวในทุกกรณี ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ทางการที่อยู่ใกล้ที่สุดเข้าตรวจสอบ การให้ความช่วยเหลือด้วยความจงใจหรือด้านมนุษยธรรมแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถือว่ามีความผิดทางกฏหมาย อย่าเห็นแก่อามิสสินจ้างเล็กๆน้อยๆถ้าถูกจับกุมมันจะไม่คุ้มกัน ///////////////////////////////////// 31 สิหาคม 2566