พะเยา ข้าวแรมฟืนอาหารนิยมไทยลื้อขายนานกว่า 55 ปี
พะเยา ข้าวแรมฟืนอาหารนิยมไทยลื้อขายนานกว่า 55 ปี
อาหารยอดนิยมของชาวไทยลื้อ อีกอย่างหนึ่งคือข้าวแรมฟืน ซึ่งปัจจุบันหากินได้ค่อนข้างยากมาก แต่ที่อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ข้าวแรมฟืนป้าจิ่ง ยังคงยืนหยัดขายมานานกว่า 55 ปี ซึ่งมีรสชาติที่กลมกล่อมจากส่วนผสมของการสรรสร้างสูตรข้าวแรมฟืนที่สืบทอดกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน
คุณป้าแสงกิ่ง แซ่จู หญิงชราวัย 72 ปี และลูกมือของคุณป้าแสงจิ่ง กำลังทำส่วนผสมของข้าวแรมฟืน ซึ่งถือว่าเป็นสูตรดั้งเดิมโบราณและเป็นอาหารของชาวไทยลื้อ ที่นิยมรับประทานกันมาอย่างต่อเนื่อง ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยข้าวแรมฟืนของป้าจิ่งนั้น ถือว่าเป็นต้นตำรับและเก่าแก่ที่สุดของอำเภอเชียงคำ ที่ได้ยืนหยัดคู่กับชาวอำเภอเชียงคำ มานานกว่า 55 ปี และยังคงมีรสชาติที่ดั้งเดิมไม่มีผิดเพี้ยนไปจากเมื่อ 55 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นที่นิยมของลูกค้าที่เดินทางมารับประทานข้าวแรมฟืนของป้าจิ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณซอย 9 ข้างโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม อย่างต่อเนื่อง
โดยป้าจิ่ง เล่าว่า ตนเองขายข้าวแรมฟืน มาตั้งแต่สมัยเมื่อเป็นสาวรุ่นๆ โดยก่อนหน้านั้นทางแม่ได้ขายข้าวแรมฟืนดังกล่าวมาก่อน ต่อมาตนเองจึงได้ทำการสืบทอดทำข้าวแรมฟืน จำหน่าย เริ่มตั้งแต่ราคา 25 สตางค์ มาจนถึงปัจจุบัน ราคาเพียงถ้วยละ 20 บาทโดยส่วนประกอบของข้าวแรมฟืน ดังกล่าวนั้น จะมีส่วนผสมของแป้งที่นำมาโม่และปั่นเคี่ยวจนได้ที่ จากนั้นก็นำใส่ภาชนะซึ่งเป็นกะละมังที่เป็นสังกะสีหมักไว้เป็นเวลาหนึ่งคืน เพื่อให้แป้งเกาะตัว เป็นก้อน จากนั้นก็มาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า สำหรับส่วนผสมของข้าวแรมฟืนน้ำจะมีลักษณะการทำแบบน้ำยำ ประกอบด้วยด้วยน้ำเต้าหู้ยี้ ที่นำมาเคี่ยว น้ำอ้อยเคี่ยวและน้ำผักกาดดอง เมื่อนำส่วนผสมดังกล่าวใส่ลงไปแล้วก็จะนำน้ำขิงทำการราดใส่ ใส่ถั่วป่นรวมทั้งพริกแห้งตำที่ทำการผัดจนหอมกรุ่นแล้วลงผสม ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยว แต่จะมีรสชาติเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่ชาวไทยลื้อนิยมรับประทานกันเป็นอย่างมาก ซึ่งในแต่ละวันก็จะขายได้วันละเฉลี่ย 100 ถึง 200 ชาม ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับป้าจิ่งในวัย 72 ปีได้เป็นอย่างดี