หนุ่มใหญ่เห็นภาพหลอน!!หายตัวเข้าป่าอ้อยนาน 3 วัน ญาติๆเชื่อผีบังตา จนท.ระดมช่วยกันออกตามหา
อุทัยธานี 28-10-66 หนุ่มใหญ่เห็นภาพหลอน!!หายตัวเข้าป่าอ้อยนาน 3 วัน ญาติๆเชื่อผีบังตา จนท.ระดมช่วยกันออกตามหา
เมื่อเวลา 13.00.น.ของวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานที่บ้านเนินพยอม เลขที่ 23 ม.9 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ทราบข่าวว่ามีหนุ่มอายุ 49 ปี ชื่อนายชำนาท ทวิทา หรือนายเล็ก ได้ออกจากบ้านไปวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ถึง วันที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณเกือบตี 4 ล่าสุดญาติๆได้จุดธูปไหว้เจ้าที่เจ้าทางหลายที่ รวมถึงบ้านญาติ ที่กลายเป็นบ้านร้าง ซึ่งปล่อยร้างมานานถึง 13 ปี โดยมีญาติของผู้เสียหาย ตายยกบ้านถึง 5 คน เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวนั้นก่อนหน้านี้เคยผูกพันกับผู้สูญหาย ซึ่งทางญาติก็เชื่อถึงสิ่งลี้ลับว่าจะถูกบ้านหลังดังกล่าวบังตาหรือไม่ จึงได้นำผู้มากราบไหว้เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทางเปิดทางขอให้เจอผู้สูญหายไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่มีชีวิตอยู่ก็ตามขอให้เจอตัวผู้สูญหาย ล่าสุดวันที่ 26 ซึ่งเป็นวันแรกที่ผู้สูญหายหายตัว เวลาเที่ยงทางครอบครัวไปดูหมอมา ทางหมอดูบอกว่าผู้สูญหายไปทำอะไรไม่ดีเหมือนว่าไปฉี่รดปลวก เหมือนกับว่าไปลบหลู่ครูบาอาจารย์ คล้ายกับให้ผู้สูญหายรับครู แต่ผู้สูญหายไม่รับ จนทำให้สิ่งลี้ลับยังตา ไม่ให้เจอ
จากการสอบนายปรีชา ทวิทา อายุ 28 ปี เป็นลูกชายของนายชำนาท หรือผู้สูญหาย ได้เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ตัวพ่อเองเคยเป็นคนติดเหล้ามาก หลังๆมาก็ได้รักษาตัวโดยกินยาเบื่อเหล้า เพิ่งรักษาหายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเวลากินยาเบื่อเหล้าเข้าไปแล้วเกิดอาการน็อคโดยไม่ได้นอน ทำให้จิตใจของตัวพ่อเองเกิดภาพหลอน ก่อนหายตัวผู้สูญหายยังได้ดื่มเหล้าก่อนหายตัวไปที่หลังบ้านหายเข้าไปในป่าอ้อย จึงได้ประสานงานงานไปยังเจ้าหน้าที่ให้ช่วยกันออกตามหา
พร้อมกับสอบถามนางกิมไน้ ทวิทา อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายชำนาญ หรือผู้สูญหาย ได้เปิดเผยว่าตนเองกับลูกหรือผู้สูญหาย และหลาน อาศัยอยู่ที่บ้านกันหลายคน ก่อนหน้าที่ผู้สูญหายจะหายตัวตนเองกับลูกยังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่เลยช่วงค่ำ แล้วก็เข้านอนจนประมาณตี 4 เกือบตี 5 ของวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ตนเองเห็นผู้สูญหายได้ลุกขึ้นจากที่นอนแล้วก็เดินหายออกไปทางหลังบ้าน ตนเองจึงเดินตามผู้สูญหายไปเห็นผู้สูญหายเดินเลาะออกไปทั้งป่าแล้วก็ไม่เจออีกเลย ตนเองก็ตะโกนเรียกแล้วแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวลูกชายหรือผู้สูญหาย ได้เคยบ่นพูดถึงภรรยาของผู้สูญหาย ว่าไม่ควรปล่อยภรรยาไปเลยบางครั้งก็นั่งร้องไห้ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวผู้สูญหายและภรรยาเคยอยู่ด้วยกันและพึ่งจะแยกจากกันเมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง พร้อมกับพา ผู้สื่อข่าวไปดูภายในบ้านและหลังบ้านที่ผู้สูญหายได้ออกไปทางหลังบ้านแล้วก็วิ่งรัดไปแถวบริเวณป่าอ้อยโดยมีรอยเท้าของผู้สูญหายติดอยู่ที่ดิน นั้นเป็นเวลา 3 วันแล้ว และวันนี้ทางครอบครัวและจนท.ได้ระดมออกตามหาโดยใช้โดรนบินสูง หาบริเวณตามป่าอ้อยที่มีพื้นที่โดยรวม 400-500 ไร่ เบื้องต้นยังไม่พบผู้สูญหาย โดยจะนัดระดมเจ้าหน้าที่ออกค้นหากันอีกครั้ง
สำเนา ทองศรี เสียงสัมภาษณ์ นายปรีชา ทวีทา ลูกผู้สูญหาย
เสียงสัมภาษณ์ นางกิมไน้ ทวิทา แม่ผู้สูญหาย