กาฬสินธุ์ชาวบ้านโวยสร้างเกาะกลางขยายถนนผลักภาระซื้อท่อจ่ายค่าทางเข้าบ้านเอง

กาฬสินธุ์ชาวบ้านโวยสร้างเกาะกลางขยายถนนผลักภาระซื้อท่อจ่ายค่าทางเข้าบ้านเอง
ชาวบ้านในตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์กว่า 300 หลังคาเรือนสุดช้ำ หลังแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ก่อสร้างเกาะกลางและขยายถนนสายกาฬสินธุ์-กมลาไสย อ้างป้องกันอุบัติเหตุ แต่ไม่มีงบสร้างท่อและทางระบายน้ำ หวั่นเกิดน้ำท่วมซ้ำซากช่วงหน้าฝน แถมผลักภาระให้ชาวบ้านในช่วงโควิด-19ระบาดซื้อท่อระบายน้ำมาวางเอง และต้องจ่ายค่าทางเข้าบ้านหลังละกว่า 5,000 บาท พร้อมเรียกร้องให้ชะลอการก่อสร้างในช่วงหน้าฝน เนื่องจากไม่มีการประชาคมสอบถามประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และโครงการไม่สมบูรณ์มัดมือชกก่อสร้างทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2563 ตัวแทนชาวบ้านใหม่คำ ม.14 บ้านดงสวาง ม.5 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ติดถนนสายกาฬสินธุ์-กมลาไสย รวมกันเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการก่อสร้างเกาะกลางและขยายถนน ของสำนักงานแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ โดยชาวบ้านระบุว่า การก่อสร้างดังกล่าวเป็นโครงการที่ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่ได้มีการทำประชาคมกับผู้ได้รับผลกระทบ และยังไม่มีการก่อสร้างท่อระบายน้ำควบคู่กันไป ซึ่งเพิ่มภาระให้ชาวบ้านต้องซื้อท่อมาวางเอง และต้องจ่ายค่าขออนุญาตวางท่อเข้าบ้านตนเองอีกหลังละ 5,000 บาท ทำให้ชาวบ้านกว่า 300 หลังคาเรือนต้องเดือนร้อนอย่างหนัก เนื่องจากเกรงว่าการก่อสร้างลักษณะดังกล่าวจะทำให้น้ำท่วมที่พักอาศัยในช่วงหน้าฝนนี้และเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านที่กำลังได้รับผลกระทบในช่วงโรคโควิด-19 แพร่ระบาด เพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยครัวเรือนละ 15,000 – 30,000 บาท

นางวิจิตรา บุญรัตน์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านใหม่คำ ม.14 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบ กล่าว่า ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านประกอบด้วยบ้านใหม่คำ บ้านดงสวาง และบ้านกลางดง ที่มีบ้านเรือนติดกับถนนสายดังกล่าวกว่า 300 ครัวเรือน กำลังจะได้รับความเดือดร้อน จากการโครงการก่อสร้างเกาะกลางถนนและขยายถนนของแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ เนื่องจากได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ทราบว่า เป็นโครงการสร้างเกาะกลางและขยายถนน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีงบประมาณก่อสร้างทางระบายน้ำหรือบ่อพัก แต่จะให้ชาวบ้านซื้อท่อมาวางเอง และต้องเสียค่าขออนุญาตวางท่อเป็นทางเข้าบ้านของตนเองหลังละ 5,000 บาท

นางวิจิตรา กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวตนและชาวบ้านไม่ได้คัดค้านการก่อสร้าง หรือขัดขวางความเจริญ ซึ่งการก่อสร้างก็ทำในเขตของทางหลวง แต่ทุกคนเห็นว่าโครงการยังไม่สมบูรณ์ เพราะไม่ได้ก่อสร้างทางระบายน้ำควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเกรงว่าจะทำให้น้ำท่วมในช่วงหน้าฝน และยังไม่ได้มีการทำประชาชนกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เป็นการมัดมือชก และยังต้องทำให้ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนในช่วงโรคโควิด-19 แพร่ระบาดมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการซื้อท่อมาวางเอง และค่าช่างเฉลี่ยรายละ 15,000 -30,000 บาท จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาชะลอการก่อสร้างไปก่อนจนกว่าโครงการจะสมบูรณ์ และทำประชาคมกับผู้รับผลกระทบด้วย

ด้านนายแดง แก้วคำลา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.14 บ้านใหม่คำ กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝนน้ำจะท่วมบ้านอยู่แล้ว ยิ่งมีการก่อสร้างเกาะกลางและขยายถนน แต่ไม่ได้ทำทางระบายน้ำจะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมเพิ่มขึ้น เดือดร้อนหนักกว่าเดิม อีกทั้งจะต้องหาเงินมาซื้อท่อมาวางเอง ทางบ้านลูกหลานก็ไม่ค่อยมีรายได้ ทำให้ตอนนี้ก็ไม่มีเงินซื้อ จึงอยากให้ชะลอการสร้างในช่วงหน้าฝนไปก่อน และต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบสอบถามชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้วย

ขณะที่นางดวงตา พายุพล ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างเกาะกลางถนน และขยายผิวจราจร 2 ข้างทาง ฝั่งละ 2.5 เมตร ตั้งแต่บ้านกลางดงไปจนถึงบ้านใหม่คำ ระยะทางประมาณ 3 กม.งบประมาณกว่า 22 ล้านบาท ซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่โครงการนี้ยังไม่มีการวางท่อระบายน้ำหรือทางเดินเท้า เนื่องจากงบประมาณยังไม่เพียงพอ ส่วนกรณีต้องให้เจ้าของบ้านซื้อท่อมาวางนั้น เป็นระเบียบขั้นตอนของทางราชการ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ทางราชการไม่สามารถซื้อท่อให้ได้ ยกเว้นบริเวณหน้าวัดและโรงเรียน แต่จะช่วยในการดำเนินการวางให้ ส่วนกรณีที่ชาวบ้านระบุว่าจะต้องจ่ายค่าขออนุญาตวางท่อเป็นทางเข้าบ้านหลังละ 5,000 บาทนั้นยืนยันว่าไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อาจจะเป็นการสื่อสารคลานเคลื่อนของช่วงควบคุมงานและผู้รับเหมาและชาวบ้าน ซึ่งทางแขวงทางหลวงจะทำการตรวจสอบต่อไป