สำนักงานจัดหางานจังหวัดตราด เปิดเวทีประชุมชี้แจงโครงการเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเภทงาน ที่คนต่างด้าวทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย
สำนักงานจัดหางานจังหวัดตราด เปิดเวทีประชุมชี้แจงโครงการเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเภทงาน
ที่คนต่างด้าวทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย
วันที่ 25 สิงหาคม 2563 เวลา 08.30 น. นางจงกล สุวรรณานนท์ จัดหางานจังหวัดตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ จัดโครงการเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเภทงานที่คนต่างด้าวทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย โดยได้รับเกียรติจาก นายศุภมิตร ชินศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมโครงการเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเภทงานที่คนต่างด้าวทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย ณ ห้องประชุมโรงแรมเอวาด้า อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด
เนื่องจากกระทรวงแรงงงาน ได้ออกประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ และกรมการจัดหางาน ได้ออกประกาศเรื่องเงื่อนไขการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกรรมกร และขายของหน้าร้านกับนายจ้าง ประกอบกับ จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ให้คนต่างด้าว ซึ่งเดิมได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่การอนุญาตได้สิ้นสุดลงและยังไม่ได้เดินทางกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ให้นายจ้างพาคนต่างด้าวไปขอรับใบอนุญาตทำงาน ตรวจสุขภาพ ประกันสุขภาพ ตรวจลงตราอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร และขอจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียน
ราษฎร จะสามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม สำนักงานจัดหางานจังหวัดตราด จึงจัดประชุมครั้งนี้ขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับนายจ้าง สถานประกอบการรับทราบข้อมูล และแนวทางการดำเนินการที่ถูกต้อง เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา)ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ตลอดจนข้อมูล ข่าวสาร ตามพระราชบัญญัติ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ โดยมีผู้แทนจากสำนักงานประกันสังคมจังหวัดตราด สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตราด และสำนักงานจัดหางานจังหวัดตราด ร่วมเป็นวิทยากร ซึ่งมีนายจ้าง สถานประกอบการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงาน NGOs องค์กรภาคีเครือข่าย ประชาชน รวมถึงผู้ที่สนใจ เข้าร่วมฟังการประชุม จำนวน 153 คน