แม่ทัพน้อยที่ 4 ร่วมเจ้าหน้าที่แจงเหตุวิสามัญโจรใต้ 6 ศพพบเตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
แม่ทัพน้อยที่ 4 ร่วมเจ้าหน้าที่แจงเหตุวิสามัญโจรใต้ 6 ศพพบเตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ก.พ.63 ที่ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พล.ท.สมพล ปานกุล แม่ทัพน้อยที่ 4/รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าพ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และนายยะยาห์ ปะนาฆอ รักษาราชการแทน ปลัด จ.นราธิวาส ได้ร่วมแถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้สนธิกำลังบังคับใช้กฎหมาย และได้ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบนเทือกเขาตะเว บ้านไอร์สะเตียร์ หมู่ 8 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 6 ราย ตรวจยึดอาวุธปืน 10 กระบอก วัตถุระเบิดและอุปกรณ์ยังชีพหลายรายการ เหตุเกิดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 23 ถึง 24 ก.พ. 63 เพื่อขอชี้แจงสร้างความเข้าใจให้รับทราบ
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำวัตถุพยานต่างๆ ที่ได้ตรวจยึดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มาวางแสดงในการแถลงข่าวในครั้งนี้ อาทิ อาวุธปืน 10 กระบอก วงจรจุดชนวนระเบิด หรือ ไอ.ซี. ไทม์เมอร์ ลูกเหล็กทรงกลม หรือสะเก็ดระเบิด ดินระเบิด ภาชนะบรรจุระเบิด และอุปกรณ์สนาม รวม 27 กระสอบ ซึ่งของกลางทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะส่งไปตรวจคราบลายนิ้วมือแฝงและ ดี.เอ็น.เอ. เพื่อเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้าย ที่เคยใช้นำไปก่อเหตุที่ใดบ้าง
โดย พล.ท.สมพล ปานกุล แม่ทัพน้อยที่ 4/รอง ผอ..รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 6 ราย แม้เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติด้วยความระมัดระวังโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักแล้วก็ตาม แต่กลุ่มคนร้ายได้เปิดฉากการยิงใส่ก่อน เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตอบโต้จนนำไปสู่การสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้ พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยเข้าช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และอำนวยความสะดวกในการจัดการศพผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย
ตามหลักศาสนาที่ถูกต้องอย่างดีที่สุด พร้อมกับสร้างความเข้าใจกับผู้นำ 4 เสาหลัก และประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำไปบิดเบือนโจมตีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดังที่เคยปรากฏมาอย่างต่อเนื่องในห้วงที่ผ่านมา
ด้าน พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส กล่าวว่า ในห้วงเวลาเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการปะทะกับคนร้ายที่เหลืออีกหลายระลอก และภายหลังเหตุการณ์สงบจึงเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยพิสูจน์หลักฐานและส่วนที่เกี่ยวข้องขึ้นมาเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน จนแล้วเสร็จในเวลาประมาณ 18.00 น. ก่อนช่วยกันลำเลียงศพผู้เสียชีวิตลงมาตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาล แต่การดำเนินการเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าภูเขาและต้องปิดไฟเดินในห้วงเวลากลางคืน เพื่อป้องกันถูกซุ่มโจมตีโดยเจ้าหน้าที่สามารถนำศพลงมาถึงโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 24 ก.พ. 63 และได้ทำการตรวจชันสูตรและยืนยันตัวบุคคลก่อนให้ญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนาโดยเร็วที่สุดเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม พ.อ.ไพศาลยืนยันจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวถึงประวัติของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย มีทั้งระดับสั่งการและผู้ปฏิบัติในการเคลื่อนไหวก่อเหตุร้าย ประกอบด้วย 1.นายมูฮามะซุลกิฟลี สือแม อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 131 หมู่ 2 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พฤติกรรมเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 3 หมาย เคยร่วมก่อเหตุบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อ 13 มี.ค. 2559 2. นายยากี เวาะงอย อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 328/5 หมู่8 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พฤติกรรมเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 2 หมาย 3.นายอาดฮาร์ สะอิ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่201/2 หมู่ 9 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พฤติกรรมเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย 4.นายมากะรูดิง อูเซ็ง อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 7/2 หมู่ 4 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พฤติกรรมเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ ไม่มีหมายจับตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุยิงก่อกวนกองรักษาการณ์ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อ 4 ม.ค. 63 5. นายเจ๊ะลีมา ลาเต๊ะบือริง อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 5/1หมู่ 5 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พฤติกรรมไม่มีหมายจับ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุยิงก่อกวน ใส่กองรักษาการณ์ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อ 4 ม.ค. 63 และ 6.นายอาแว สามะ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 278/1 หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พฤติกรรมเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 3 หมาย จากประวัติและพฤติกรรมกลุ่มคนร้ายรวมทั้งของกลาง ที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุบ่งชี้ว่ากลุ่มคนร้าย น่าจะเตรียมการลงมาก่อเหตุในพื้นที่ แต่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ก่อน ทำให้สามารถระงับยับยั้งการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ใดให้ที่พักพิงแก่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเราจะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด และในช่วงระยะนี้ห้ามประชาชนขึ้นไปบนเทือกเขาทุกกรณีทั้งหาของป่าและล่าสัตว์ เรายังคงยืนยันความชอบธรรมที่จะขยายผลเพื่อติดตามไล่ล่าจับกุมคนร้ายกรณีบุกโจมตีฐาน ชคต.ร่มไทร อ.สุคิริน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กองกำลัง เราจะชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหตุจำเป็น ต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ เพื่อสร้างพื้นที่ให้ปลอดความรุนแรงอย่างยั่งยืน