พะเยา… “ธรรมนัส” รมช.เกษตรฯ ติดตามการดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำ “น้ำญวณ” ยืนยัน ต้องสร้างให้สำเร็จแก้ ปัญหาแล้ง-ท่วม

พะเยา… “ธรรมนัส” รมช.เกษตรฯ ติดตามการดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำ “น้ำญวณ” ยืนยัน ต้องสร้างให้สำเร็จแก้ ปัญหาแล้ง-ท่วม

ย้ำเตรียมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม ด้านผู้นำเมี่ยนน้ำยวนพัฒนา ลั่นขอชดเชยเป็นธรรมพร้อมเสียสละ

วันที่ 24 สิงหาคม 2562 ร.อ.ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางพร้อมด้วย ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอัครา พรหมเผ่า ประธานกรรมการฮักบ้านเกิดพะเยา ที่ปรึกษา รมช.เกษตรฯ และ นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน ฝ่ายก่อสร้าง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน และหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการอ่างน้ำญวณ ณ โรงเรียนบ้านสบสา (สายใจ ดาลลา อนุสรณ์) โดยมีประชาชนกลุ่มผู้ใช้น้ำลุ่มน้ำยวน ต.ร่มเย็น และ ต.เจดีย์คำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา ประมาณ 500 คน รอให้การต้อนรับ และลงพื้นที่ตรวจจุดที่จะใช้ก่อสร้างอ่างน้ำญวณ ในพื้นที่บ้านสบสา หมู่ 18 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ ซึ่งมีพื้นที่จะได้รับผลประโยชน์ 7 ตำบล ประมาณ 20,000 ไร่
ร.อ.ดร.ธรรมนัส กล่าวภายหลังได้พบปะประชาชนและตรวจพื้นที่บริเวณจุดที่จะใช้ก่อสร้างอ่างน้ำญวณ บ้านสบสา หมู่ 18 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ ว่า บริเวณที่ตนเดินทางมาดูในครั้งนี้ เป็นจุดที่จะก่อสร้างอ่างน้ำญวณ ซึ่งเมื่อปี 2522 ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จมาตรวจเยี่ยมตรงนี้ และทรงมีพระราชดำริให้สร้างอ่างน้ำญวณ ปีนี้ 2562 แล้ว ยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง ปัญหาอยู่ที่พื้นที่บางส่วนของโครงการอยู่ในพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่จะต้องทำงานร่วมกันระหว่างกรมชลประทาน และ กรมอุทยานฯ ทั้งนี้ตนได้ประสานงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ว่าขอให้ส่งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ มาทำงานร่วมกันในส่วนที่เกี่ยวข้อง “สำหรับการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบในโครงการฯ นี้ ในการสร้างอ่างเก็บน้ำ สร้างเขื่อนทุกที่ จะมีจำนวนพี่น้องประชาชนบางส่วนที่ได้รับผลกระทบ กรมชลประทานจะมีหลักเกณฑ์ในการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว อย่างที่ท่านรองอธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจง เราได้เตรียมงบประมาณสำหรับรองรับการเยียวยาและแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว” โดยได้ยืนยันกับประชาชนว่า จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งรองอธิบดีกรมชลประทาน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ร่วมกันในครั้งนี้ และประสานงานไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำงานบูรณาการร่วมกัน แก้ปัญหาที่ติดค้าง เพื่อให้สามารถเร่งดำเนินการก่อสร้างให้เร็วที่สุด เพราะจะเกิดผลประโยชน์ด้านน้ำเพื่อการเกษตรและป้องกันปัญหาน้ำท่วมใน ต.ร่มเย็น ต.เจดีย์คำ ต่อไป

ด้านนายกิตติ กิตติ์วรกุล อดีตผู้ใหญ่บ้านน้ำยวนพัฒนา หมู่ 19 ต.ร่มเย็น กล่าวว่า บ้านน้ำยวนพัฒนาซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ ทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกิน ประมาณ 70 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่มาสำรวจทุกครั้งก็บอกว่าจะให้เวนคืน แต่ไม่ชัดเจนว่าจะดำเนินการเวนคืนหรือชดเชยให้เมื่อใด ก่อนก่อสร้างหรือหลังก่อสร้าง อยากให้มีความชัดเจน และที่สำคัญของให้มีการชดเชยอย่างเป็นธรรม ตนและผู้ที่ได้รับผลกระทบก็พร้อมที่จะเสียสละให้คนส่วนใหญ่ 7 ตำบล