ลุกโชติสว่าง ระอุกลางเมืองพิษณุโลก ” มณฑลทหารบกที่ 39 ระดมสารวัตรทหารอำนวยความสะดวกพร้อมรดน้ำ สนับสนุนหลายภาคส่วน สกัดเพลิงไหม้อาคารไม้เรือนไทยโรงเรียนจ่าการบุญ จ.พิษณุโลก มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท คาดไฟฟ้าลัดวงจร
🔥🚧Breaking News “ ลุกโชติสว่าง ระอุกลางเมืองพิษณุโลก ” มณฑลทหารบกที่ 39 ระดมสารวัตรทหารอำนวยความสะดวกพร้อมรดน้ำ สนับสนุนหลายภาคส่วน สกัดเพลิงไหม้อาคารไม้เรือนไทยโรงเรียนจ่าการบุญ จ.พิษณุโลก มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท คาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 19.30 น. มณฑลทหารบกที่ 39 ได้รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก ว่า ศูนย์วิทยุตำรวจ 191 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารหอศิลป์ ซึ่งเป็นอาคารเรือนไทย 2 ชั้น ที่มีอายุกว่า 40 ปี ของโรงเรียนจ่าการบุญ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก หลังรับแจ้ง จึงได้มอบหมายให้ นายทหารเวรสถานีสารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 39 นำกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 39 เดินทางเข้าไปอำนวยความสะดวกการจราจร และประสาน รถน้ำของมณฑลทหารบกที่ 39 , กองพลทหารราบที่ 4, กองพันทหารเสนารักษ์ที่ 4 และกองบิน 46 ร่วมสนับสนุนภารกิจการดับเพลิงบริเวณดังกล่าว ร่วมกับ รถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลนครพิษณุโลก และรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวนมากกว่า 10 คัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้าระดมฉีดน้ำเป็นการด่วน ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก พบกลุ่มควันไฟและเปลวเพลิงกำลังโหมลุกไม้อย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันลากสายยางฉีดน้ำสกัดต้นเพลิงไม่ให้ลุกลามไปพื้นที่ข้างเคียงซึ่งเป็นวัดนางพญา วัดสำคัญแห่งหนึ่งของ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเวลาผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมงเพลิงยังไม่สงบลง และมีเพลิงลุกไหม้ต่อเนื่องเป็นระยะๆ ซึ่งเพลิงกำลังลุกไหม้ที่บริเวณชั้น 2 ภายในศาลาเรือนไทย โรงเรียนจ่าการบุญ รถน้ำรถดับเพลิงจากหลายภาคส่วนกำลังระดมทีมเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ
ระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกไหม้ขยายวงกว้างออกไปติดลุกลามยังอาคารข้างเคียง และสกัดกั้นเพลิงที่กำลังลุกลามไหม้ไปยังบริเวณด้านหลังกุฏิพระของวัดนางพญา มีแสงเปลวเพลิงลุกไหม้อยู่บริเวณด้านหลังของตัวอาคารทรงไทยภายในโรงเรียนจ่าการบุญ สว่างไปทั่วกลางเมืองพิษณุโลก จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เมื่อเวลา 20.45 น. ที่ผ่านมา
สำหรับอาคารหอศิลป์ภายในเป็นที่เก็บอุปกรณ์เครื่องดนตรีไทยและดนตรีสากลจำนวนมากที่ใช้สำหรับสอนเด็กนักเรียน เด็กนักเรียนผูกพันกับอาคารเรียนแห่งนี้เป็นอย่างมากเพราะสร้างมายาวนานถึง 40 ปี ซึ่งมูลค่าความเสียหายของเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่ต่ำกว่าหลายล้านบาท พร้อมจะตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกเพลิงไหม้ต่อไป เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งต้นเพลิงนั้นเกิดจากชั้นที่ 2 ของตัวอาคาร มีผู้ได้ยินเสียงดังแล้วเกิดประกายไฟก่อนจะลุกไหม้ตัวอาคารเสียหายทั้งหลัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 เพื่อเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แน่ชัดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.