แถลงจับเรือประมงเวียดนามคราดปลิงพร้อมรวบ 4 ผู้ต้องหาก่อนตรวจเข้มโควิด-19
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
แถลงจับเรือประมงเวียดนามคราดปลิงพร้อมรวบ 4 ผู้ต้องหาก่อนตรวจเข้มโควิด-19
วันนี้ (22 ส.ค.63) เวลา 11:00 น. ที่ท่าเทียบเรือประมงนราธิวาส ถ.ตากใบ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส นาวาเอกธัชธรรม ณ สงขลา รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 หรือ ศรชล.เป็นประธานในการแถลงข่าวพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กอ.รมน.จ.นราธิวาส กรมประมง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ทัพเรือภาค 2 ส่วนหน้า ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส กองกำกับการตำรวจน้ำ ตรวจคนเข้าเมืองนราธิวาส สนง.ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นต้น ถึงผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามซึ่งลักลอบเข้ามาใช้เครื่องมือทำการประมงแบบคราดปลิงในเขตน่านน้ำของราชอาณาจักรไทยพร้อมรวบผู้ต้องหาสัญชาติเวียดนาม 4 ราย ซึ่งเป็นไต๋ก๋งและลูกเรือ
ทั้งนี้การแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนามของผู้บังคับบัญชาในวันนี้ ทัพเรือภาคที่ ๒ / ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง 058 ระยะ 78 ไมล์ จากปากแม่น้ำนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
ทางพลเรือโทสำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 จึงได้สั่งการให้เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ออกเรือลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยในวันที่ 21 สิงหาคม 2563 เรือหลวประจวบคีรีขันธ์ได้ตรวจพบเรือประมงต่างชาติ 1 ลำ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นเรือประมงสัญชาติเวียดนาม
ประเภทเรือคราดปลิง จำนวน 1 ลำ ลูกเรือ จำนวน 4 คน จึงได้ควบคุมเรือดังกล่าว มาทำการสอบสวนที่ท่าเทียบเรือประมงจังหวัดนราธิวาส เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 5 ข้อหา ดังนี้
1.ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.บ.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 36 ประกอบมาตรา 129 วรรคสอง)
2. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 มาตรา 7 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 11 วรรคหนึ่ง)
3. เป็นคนต่างด้าวร่วมกันทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 มาตรา 5 ทวิ มาตรา 11 ทวิ)
4.ไม่เข้า – ออก ตามช่องด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่ที่กำหนด / ไม่เข้า – ออก ตามเวลาที่กำหนด (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 62)
5.เข้ามาหรือออกไปโดยยื่นรายการและไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเส้นทางนั้น (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 18 วรรคสอง ประกอบมาตรา 62)
สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ ศรชล.ภาค 2 ในปีงบประมาณ 2563 ได้จับกุมมาแล้ว 13 ครั้ง รวม 26 ลำ ในการจับกุมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 14 รวมทั้งหมด 27 ลำ ลูกเรือ จำนวน 170 คน
โดยทาง ศรชล.ภาค 2 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศรชล.ภาค 2 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 113,275 ตารางกิโลเมตรนั้น เราจะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล อย่างเต็มความสามารถ จะมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทยคงอยู่กับลูกหลานของคนไทยต่อไป และเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เมือง จ.นราธิวาสได้ทำการตรวจคัดกรองเข้มโรคไวรัสโควิด-19 เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด โดยทั้ง 4 รายยังมีอุณหภูมิปกติ