มาเลเซียสินค้าเริ่มขาดแคลนหลังประกาศปิดประเทศ 14 วัน
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
มาเลเซียสินค้าเริ่มขาดแคลนหลังประกาศปิดประเทศ 14 วัน
รายงานข่าวความคืบหน้ากรณีประเทศมาเลเซียใช้มาตรการกฎเหล็กปิดประเทศ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 31 มี.ค.63 ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นวันที่ 5 ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 จากพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยภาพรวมทั้ง 2 ฟากฝั่ง ที่บริเวณด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย มีความเงียบเหงากว่าในทุกวันที่ผ่านมา โดยมีคนไทยที่ยังตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย และคนมาเลเซียที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศไทย ต่างทยอยเดินทางกลับเข้าออกของแต่ละประเทศบางตา และต้องผ่านการตัดกรองจากเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฟากฝั่งอย่างเข้มงวด โดยมียอดจำนวนคนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศ ซึ่งผ่านด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก ตากใบ และแว้ง ที่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 21 มี.ค. 63 มีจำนวนทั้งสิ้น 21,056 คน
นอกจากนี้จากการตระเวนตรวจสอบช่องทางข้ามจุดผ่อนปรนชุมชนท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พบว่า ฝั่งประเทศมาเลเซียมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน หรือ หน่วย PGA จากเมืองกวนตัง รัฐปาหัง ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังการลักลอบของกลุ่มบุคคลเข้าและออกประเทศ และได้นำเชือกมาขึงปิดท่าเรือข้ามฟาก โดยจะอนุญาตให้คนไทยผ่านข้ามแดนเท่านั้น ส่วนฝั่งพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารชุดป้องกันชายแดนที่ 3 ฉก.นราธิวาส 30 ที่ถูกส่งตัวมาเฝ้าสังเกตการลักลอบแฝงตัวของบุคคลต่างๆ ข้ามแดนที่บริเวณช่องทางธรรมชาติที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้กัน
และจากผลพวงที่ประเทศมาเลเซียได้ประกาศปิดประเทศถือเป็นวันที่ 5 นั้น พบว่า ล่าสุดสินค้าต่างๆโดยเฉพาะอาหาร พืชผักที่ใช้บริโภค และมีการซื้อขายระหว่างกันมาเป็นเวลายาวนานเริ่มที่จะขาดแคลน โดยมีการอนุโลมให้รถยนต์บรรทุกของประเทศมาเลเซีย สามารถขับข้ามด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก เข้ามายังประเทศไทยได้ โดยอนุญาตให้มีคนขับเพียง 1 คน ที่มีใบรับรองของแพทย์มาเลเซีย มายืนยันกับเจ้าหน้าที่ทางการไทย ก่อนที่จะนำรถยนต์บรรทุกไปรับสินค้าขับเข้าประเทศ
นอกจากนี้แหล่งข่าวที่ทำหน้าที่ในการคัดกรองบุคคลที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่ บริเวณช่องทางข้ามจุดผ่อนปรน ชุมชนท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ประเทศมาเลเซียเขามีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับ อ.สุไหงโก-ลก เนื่องจากในช่วงเย็นของวานนี้ มีอุสตาชรายหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในเมืองรันตูปันยัง ที่ทางการประเทศมาเลเซียคาดว่าได้เสียชีวิตลงด้วยเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ที่ก่อนหน้านี้พบประวัติได้ร่วมเดินทางไปร่วมกิจกรรมชุมนุมของผู้เผยแผ่ศาสนา ที่มัสยิดศรีเปตาลิง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่คนไทย 132 คน ที่ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมในครั้งนั้นด้วย หลังจากอุสตาชเสียชีวิต ในช่วงเช้าของวันนี้ทางการประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางไปพบกับครอบครัวดังกล่าว และได้ใช้มาตรการในการกักตัวบุคคลในครอบครัวของอุสตาช ให้อาศัยอยู่เฉพาะในบ้านพัก โดยส่งเจ้าหน้าที่มาคอยสังเกตการณ์ในการเฝ้าระวังที่บ้านพัก พร้อมจัดส่งอาหารที่จำเป็นให้กับสมาชิกของครอบครัวอุสตาช ได้ไว้ใช้รับประทาน จนกว่าแน่ใจว่าสมาชิกของครอบครัวอุสตาช ไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ซึ่งในอีกแง่มุมหนึ่งถือว่าเป็นผลดีที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตลอดแนวพรมแดนด้าน อ.สุไหงโก-ลก ไม่กล้าที่จะลักลอบเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเกรงติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19