เทศบาลเมืองชะอำ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ หลายหน่วยงาน ติดประกาศสั่งให้ “ร้านครัวคงสมุทร ซีฟู้ด ” รื้อถอนอาคารที่ปลูกสร้างรุกชายหาดชะอำ ขณะที่ลูกขายเจ้าของร้าน “อารมณ์เดือด”ชี้หน้าตำหนิ เจ้าหน้าที่รังแกและปฎิบัติหน้าที่สองมาตรฐาน
เทศบาลเมืองชะอำ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ หลายหน่วยงาน ติดประกาศสั่งให้ “ร้านครัวคงสมุทร ซีฟู้ด ” รื้อถอนอาคารที่ปลูกสร้างรุกชายหาดชะอำ ขณะที่ลูกขายเจ้าของร้าน “อารมณ์เดือด”ชี้หน้าตำหนิ เจ้าหน้าที่รังแกและปฎิบัติหน้าที่สองมาตรฐาน
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 เวลา13.00 น.นายศรีเพชร อินพันทัง รองปลัดเทศบาลเมืองชะอำ นายทศพล อังกินันทน์ นิติกรชำนาญการ สำนักปลัดเทศบาลเมืองชะอำ ในฐานะพนักงานท้องถิ่นตัวเเทนของเทศบาลเมืองชะอำ ได้ประสาน พล.ท.สีหเดช ดีสนธิโชติ หัวหน้าสำนักงานรองเลขาธิการ กอ.รมน. พ.อ.ประยุกต์ อุ่นอบ รอง ผอ.รมน.จว.เพชรบุรี พ.อ.สนอง ธัญญเนตร์ หัวหน้าการข่าว รมน.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร มบท.15 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ สนธิกำลังเดินทางไปยังร้านครัวคงสมุทร ซีฟู้ด ซึ่งตั้งอยู่เชิงสะพานปากคลองชายหาดชะอำ ฝั่งตรงข้ามหน้าวัดเนรัญชราราม ถ.ร่วมจิตต์ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อนำคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นเทศบาลเมืองชะอำ ที่ พบ.52101/1931 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ไปติดประกาศให้นางสายมูล กลมค้างพูล และหรือเจ้าของและผู้ครอบครองร้านครัวคงสมุทร ซีฟู้ด ให้รื้อถอนอาคาร ค.ส.ล.ที่มีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น
ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชะอำ กำลังปิดป้ายประกาศคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นเทศบาลเมืองชะอำ และ พ.อ.สนอง ได้สอบถามหาเจ้าของร้านเพื่อชี้แจงถึงขั้นตอนการปิดประกาศดังกล่าว ได้มีนายจักรพงษ์ เหล็กไหล เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นประธานชุมชนบ้านปากคลอง และกล่าวอ้างว่าร้านดังกล่าวเป็นของบิดาตนซึ่งได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับทางวัดเนรัญชราราม และหลังจากบิดาได้เสียชีวิตลงตนพร้อมกับภรรยาได้ดูแลกิจการต่อมาจนถึงปัจจุบัน
พร้อมกันนี้นายจักรพงษ์ยังได้สั่งให้ลูกน้องภายในร้านใช้กล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลาพร้อมกับใช้วาจาโต้เถียงกับ พ.อ.สนอง โดยกล่าวหาว่านำกำลังบุกมาที่ร้านโดยที่ไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อน และกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่สองมาตรฐาน ซึ่ง พ.อ.สนองพยายามอธิบายเหตุผลให้ฟังว่าทางเทศบาลเมืองชะอำได้ทำหนังสือขอกำลังและให้มาร่วมเป็นสักขีพยาน แต่นายจักรพงษ์แสดงอาการไม่พอใจพร้อมชี้หน้าต่อว่าเจ้าหน้าที่ว่า “คุณมีหน้าที่อะไร กอ.รมน.เขามีหน้าที่คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่มารังแกชาวบ้านอย่างนี้ คุณรังแกผมมาตลอด” โดยทั้ง พ.อ.สนอง และนายจักรพงษ์ ได้โต้แย้งกันนานประมาณ20นาที จนเจ้าหน้าที่ทหารตัองแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน พร้อมกับดำเนินการปิดประกาศตามจุดต่างๆต่อไปโดยนายทศพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เทศบาลเมืองชะอำ ได้ทำการตรวจสอบร้านครัวคงสมุทร ซีฟู้ด พบว่ามีการปลูกสร้างอาคาร คสล.1 ชั้น จำนวน 1 หลัง และห้องน้ำ 1 หลัง โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และมีผู้ร้องเรียนเข้าไปที่เทศบาลหลายครั้ง ดังนั้นเทศบาลเมืองชะอำ จึง ได้มีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารออกทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ต่อมาเจ้าของร้านได้อุทธรณ์คำสั่ง แต่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ให้ยกเลิกคำร้องของร้านครัวคงสมุทร ซีฟู้ด พร้อมสั่งให้ดำเนินการรื้อถอนตามกำหนด
แต่ปัจจุบันเจ้าของร้านอาหารครัวคงสมุทรซีฟู้ดยังไม่ได้ดำเนินการรื้อถอน ซึ่งถืออันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาปิดประกาศแจ้งเตือนให้เจ้าของร้านดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวออกให้หมดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือฉบับนี้ หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลากำหนด เทศบาลเมืองชะอำจะดำเนินการตาม พรบ.ควบคุมอาคาร และดำเนินคดีอาญากับเจ้าของร้านนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบว่าร้านครัวคงสมุทรซีฟู้ดยังได้มีการปลูกสร้างอาคารห้องพักยื่นลงไปริมชายหาดทะเลขึ้นใหม่อีกจำนวน 4 ห้อง และสร้างอาคารสำรับใช้เป็นร้านอาหารอีก 1 หลัง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดประกาศคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นเทศบาลเมืองชะอำ แจ้งเตือนให้เจ้าของรื้อถอนอาคารทั้งหมดออกภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันปิดประกาศ หากไม่ดำเนินการจะดำเนินการตาม พรบ.ควบคุมอาคาร และดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันยังได้เดินทางไปบริเวณสะพานยกด้านหลังโรงปูนซีเมนต์ เพื่อปิดประกาศให้ผู้ที่ปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนอยู่ริมถนน ทำการรื้อถอนให้เสร็จสิ้นภายในไม่เกิน15วัน เนื่องจากก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่ได้ผ่อนปนตามคำร้องขอของประชาชนแต่ปัจจุบันยังไม่มีการรื้อถอน ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ยื่นคำขาดขอให้รื้อถอนภายในอีก15วัน หากยังมีการฝ่าฝืนคำสั่งคงต้องดำเนินคดีตามกฏหมายเช่นกัน
กสิพล ศิริลาภ-เพชรบุรี