กมธ.พัฒนาสังคมฯ จัดสัมมนาเรื่อง “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย”

กมธ.พัฒนาสังคมฯ จัดสัมมนาเรื่อง “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย” พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนให้มีความเหมาะสม

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสัมมนา B 1-3 ชั้น B 1 อาคารรัฐสภา (ฝั่งสภาผู้แทนราษฎร) คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา จัดสัมมนาเรื่อง “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย” โดยมีนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานกล่าวเปิดสัมมนา และมีคณะกรรมาธิการฯ สมาชิกวุฒิสภา ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ประธานสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร และผู้แทนกลุ่มเด็กและเยาวชนสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย 38 องค์กร เข้าร่วม
.
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “สภาเด็กและเยาวชนกับบริบทของสังคมไทย” กล่าวตอนหนึ่งว่า นับเป็นความโชคดีของตนที่ได้มีโอกาสพิจารณากฎหมายส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชน ซึ่งการได้มีโอกาสดังกล่าวได้สร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะกรรมาธิการผู้ซึ่งพิจารณาร่างกฎหมาย เมื่อได้ถกกันในประเด็นต่าง ๆ ทำให้ความเชื่อมั่นเกิดขึ้น และตนเชื่อว่าคำว่าความเชื่อมั่นเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ สภาเด็กและเยาวชนเติบโตได้เพราะความเชื่อมั่น นอกจากนี้ยังมองว่า โอกาสไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมีได้ง่าย ๆ และโอกาสจะทำให้เกิดผลิตผลขึ้น ซึ่งผลิตผลดังกล่าวนั้นคือ ความสำเร็จ และความสำเร็จนั้นเป็นที่มาของการจัดงานในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ตนมีความรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่กระทรวงที่เกี่ยวข้องไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของสภาเด็กและเยาวชนที่เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย จึงทำให้การดำเนินงานต่างๆ ติดขัดมาโดยตลอด ทั้งนี้ ตัวแปรหลักที่จะทำให้รู้ว่าสภาเด็กและเยาวชนจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ คือ งบประมาณแผ่นดินที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานต่าง ๆ ช่วงนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ที่เข้าสู่สภามากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ตนมีความเชื่อมั่นว่าจะเข้ามามีบทบาทและเข้าใจสภาเด็กและเยาวชนมากขึ้น และจะทำให้บรรยากาศการพิจารณางบประมาณปี 67 ที่จะถึงนี้มีแนวทางที่สดใส ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากสภาเด็กและเยาวชนที่จะช่วยกันเข้าไปพูดคุยให้เห็นถึงความสำคัญ หากสามารถขยับงบประมาณเพื่อสนับสนุนการทำงานของสภาเด็กและเยาวชนได้ จะทำให้เกิดเป็นมาตรฐานและมีงบประมาณแผ่นดินในการดำเนินการต่างๆได้ พร้อมย้ำว่า สภาเด็กเติบโตได้เพราะความเชื่อมั่นของผู้ใหญ่ และความเชื่อมั่นนั้นจะนำมาสู่โอกาสในการทำงานเพื่อสังคมและประเทศ เมื่อมีโอกาสขอให้ใช้โอกาสทำงานให้ดีที่สุดเพื่อนำมาสู่ความสำเร็จ

.
สำหรับภายในกิจกรรมมีการสัมมนาในประเด็น “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย” จากวิทยากร ประกอบด้วย นางสาวสุภาพิชญ์ ไชยดิษฐ์ อดีตประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย นายธีระศักดิ์ เพ็งยิ้ม อดีตรองประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย นายณรงค์ศักดิ์ สังข์ทอง เลขาธิการสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และนางสาวนดา บินร่อหีม ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ ถอดบทเรียนการดำเนินงานของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ปัญหาและอุปสรรคการดำเนินงานของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และการขับเคลื่อนภารกิจของสภาเด็กและเยาวชนที่มีต่อไปในอนาคต โดยภายหลังการสัมมนาในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะรวบรวมข้อมูลและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนให้มีความเหมาะสมต่อไป
.
โอกาสนี้ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา พร้อมด้วย กรรมาธิการ มอบเข็มเชิดชูเกียรติและเกียรติบัตรให้แก่เด็กและเยาวชนที่ทำคุณประโยชน์ต่อส่วนร่วม สังคม และประเทศชาติในด้านต่าง ๆ ในครั้งนี้ด้วย