บรรณาธิการข่าว.. ‘บูรฮันธ์’ ทปษ.กมธ.ตำรวจ ยืนหนังสือเรียกร้องเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย แด่เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
บรรณาธิการข่าว.. ‘บูรฮันธ์’ ทปษ.กมธ.ตำรวจ ยืนหนังสือเรียกร้องเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย แด่เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
(19 ก.ค.2563) นายบูรฮันธ์ สะเม๊าะ ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการตำรวจ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา คณะฯ ตระหนักและเข้าใจถึงปัญหา ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ยื่นหนังเสนอ เพื่อให้เพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อสวัสดิการ ของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องปฎิบัติงานกับเหตุความรุนแรงและความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีข้อความดังนี้
วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 เรื่อง ขอพิจารณาปรับขึ้นเบี้ยเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่ที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เรียน ประธานกรรมาธิการตำรวจ
ตามที่ได้รับทราบถึงข้อมูลการถูกหักลดเงินค่าเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่ชั้นประทวน (ยศสิบตำรวจตรี ถึง ดาบตำรวจ) ได้เบี้ยเสี่ยงภัยเดือนละ 2,500 บาท ค่าครองชีพเดือนละ 1,500 บาท ชั้นสัญญาบัตร (ยศร้อยตำรวจตรีขึ้นไป) ได้เบี้ยเสี่ยงภัยเดือนละ 2,500 บาท เบี้ย เลี้ยงเฉลี่ยเดือนละ 4,000 บาท ข้าราชการตำรวจบางตำแหน่งมีค่าตำแหน่งอีกเดือนละ 3,000 บาท ทั้งนี้ กลับ ได้รับค่าเสี่ยงภัยไม่เต็มจำนวน นั้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จึงใคร่ ขอให้พิจารณาเห็นควรปรับขึ้น
เบี้ยเสี่ยงภัย จากเดิม 2,500 บาท เพิ่มเป็น 3,000 ถึง 3,500 บาท เนื่องจาก แนวโน้มของสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีถ้าทีว่าจะสงบ ซ้ำยังทวีความรุนแรงมาตลอด ข้าราชการตำรวจ ยังคงตกเป็นเป้าหมาย และเป็นเหยื่อของเหตุการณความไม่สงบในพื้นที่ ทำให้ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นเกิด ความวาดระแวง ความผิดปกติของจิตใจ ส่งผลให้ทำให้การดำเนินชีวิตไม่เป็นปกติสุข จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาด้วย จักขอบคุณยิ่ง ลงชื่อ (นายบูรฮันธ์ สะเม๊าะ) ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการตำรวจ
นอกจากนี้ นายบูรฮันธ์ ยังได้กล่าวถึงข้อสรุป เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2563 คณะกรรมาธิการตำรวจ เยี่ยมและรับฟังสะท้อนปัญหา ณ.สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ และเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์
โดยมี ประธานประจำคณะกรรมาธิการตำรวจ นายนิโรธ สุนทรเลขา ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการตำรวจ นายบูรฮันธ์ สะเม๊าะ และคณะ เรื่องที่สำคัญตำรวจสะท้อนปัญหา คือ การนำระบบ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้หาเบาะจับคนร้ายมาดำเนินคดี เช่น ระบบติดตามใบหน้า ระบบที่ทันสมัย เป็นต้น
ในปัจจุบันตอนนี้ ทั่วโลกกำลังพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อนำมาใช้ปราบปรามดำเนินคดี คนร้ายหรือผู้กระทำความผิด จึงอยากจะเห็นตำรวจไทยใช้เครื่องมือที่ทันสมัยมาเป็นประโยชน์ในที่สุด
เรื่องกล้อง CCTV ระบบทั่วไป ที่ติดตั้งในพื้นที่ ประสานของบประมาณ ต่างคนต่างขอ ไม่เชื่อมโยงข้อมูล จัดซื้อระยะหนึ่ง สัญญาครบ คุณภาพแย่ลง ติดทั่วแต่ไม่ครอบคลุม อีกระบบ แบบตรวจจับข้อมูล license plate 26 จุด ครอบคลุม เส้นทาง 2 ขา ขาขึ้นและขาลงได้ในระดับหนึ่ง มีแนวคิดเพื่อมาตรวจสกัดยาเสพติด อนาคตอาจต้องใช้เพิ่มเติม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานสะดวก
สุดท้ายตำรวจจังหวัดนครสวรรค์กับการควบคุมดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตำรวจได้ลงพื้นที่ดูแลประชาชน ได้ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประประชาชน และให้กำลังใจประชาชน ส่วนหนึ่งได้จัดทำโครงการรับอาหารฟรี แจกจ่ายให้ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบในวิกฤตการณ์ครั้งนี้ พล.ต.ต.สุกฤษฎิ์ บุญทรง ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ กล่าว…
ส่วนความเห็นของคณะกรรมาธิการตำรวจ ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ และรับใช้พี่น้องประชาชนได้อย่างดี ส่วนข้อเสนอแนะที่ได้รับฟังในครั้งนี้จะนำไปผลักดันในชั้นกรรมาธิการต่อไป นายนิโรธ สุนทรเลขา กล่าว