ตม.จันทบุรี ออกตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันปราบปรามการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พบรถแท็กซี่ต้องสงสัยเรียกขอตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวหนังสือเดินทางหมดอายุ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำคดีตามกฎหมายพ.ร.บ.คนเข้าเมือง
ตม.จันทบุรี ออกตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันปราบปรามการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พบรถแท็กซี่ต้องสงสัยเรียกขอตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวหนังสือเดินทางหมดอายุ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำคดีตามกฎหมายพ.ร.บ.คนเข้าเมือง
วันนี้ ( 17เม.ย.65 ) เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ได้ออกตรวจพื้นที่บนถนนสายสุขุมวิท เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี พ.ศ.2565 ในขณะออกตรวจพื้นที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้พบรถยนต์แท็กซี่รับจ้างส่วนบุคคลยี่ห้อ โตโยต้า เขียว เหลือง หมายเลขทะเบียน 1 มค 7501 กรุงเทพมหานคร ลักษณะมีพิรุธ พยายามเร่งเครื่องยนต์หนีเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องให้สัญญาณเรียกให้หยุดรถ แล้วแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี เพื่อขอทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 2 คนนั่งอยู่ในรถและมีสัมภาระตั้งบังฝั่งหลังคนขับเพื่อไม่ให้คนที่ขับรถผ่านหรือขับตามตามสังเกตุเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ที่เบาะหลังคนขับ เมื่อสอบถามนายเลอพงษ์ ภูมิเจริญ อายุ 62 ปี คนขับรถแท็กซี่ให้การเพียงว่ารับแรงงานต่างด้าวมาจากในตัวเมืองจันทบุรี และได้รับการว่าจ้างจากญาติของแรงงานต่างด้าวให้มารับโดยตกลงราคาอยู่ที่ 4,000 บาท และไม่ทราบว่าเป็นต่างด้าวผิดกฎหมาย เพราะเห็นมีหนังสือเดินทางก็เลยรับมา ทางเจ้าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรีจึงได้นำตัวทั้งหมดมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพราะชุดสืบสวน ตม.จันทบุรีได้มีการสืบทราบว่าจะมีเครือข่ายรถรับจ้างที่เป็นรถแท็กซี่ รถตู้ป้ายดำที่แอบรับจ้างขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจากริมชายแดนไปทำงานที่จังหวัดต่างๆ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนที่สูง
ทำให้ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองต้องทำงานอย่างหนักขึ้น เพื่อสกัดกั้นการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายเลอพงษ์ ภูมิเจริญ อายุ 62 ปี เป็นผู้ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการถูกจับกุม
ส่วนแรงงานต่างด้าว 2 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเป็นบุคคลต่างด้าว(สัญชาติกัมพูชา)เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พิชชาภา เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก