บิ๊กป้อมปลื้มมวลชนกว่า4หมื่นคนรอรับคึกคัก ถ่อมตัวพูดไม่เก่งแต่ทำได้ใต้สงบนำสินค้าฮาลาลส่งออกทั่วโลกดันเขตเศรษฐกิจพิเศษเชื่อม3 รัฐมาเลเซีย
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
บิ๊กป้อมปลื้มมวลชนกว่า4หมื่นคนรอรับคึกคัก ถ่อมตัวพูดไม่เก่งแต่ทำได้ใต้สงบนำสินค้าฮาลาลส่งออกทั่วโลกดันเขตเศรษฐกิจพิเศษเชื่อม3 รัฐมาเลเซีย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 มี.ค. 66 ที่สวนสาธารณะมิ่งขวัญประชา อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พรรคพลังประชารัฐ ได้มีการเปิดเวทีปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ใช้โอกาสนอกเวลาราชการหลังจากเสร็จสิ้นที่ลงมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาพบพี่น้องประชาชนเพื่อขอเสียงสนับสนุนให้พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล โยมี พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
ซึ่งก่อนที่ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางมาปราศรัยเพื่อพบพี่น้องประชาชน ซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส ซึ่งมีจำนวนกว่า 40,000 คน วันนี้ผมมาพร้อมกับ ผู้บริหาร และสมาชิก พรรคพลังประชารัฐ เพื่อยืนยันให้พี่น้องทุกท่านมั่นใจ ว่า พวกเรานั้น ทางพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งตัวนายวิรัช รัตนเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้สลับสับเปลี่ยนการปราศรัยถึงนโยบายต่างๆของพรรค พร้อมทั้งได้มีการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 จชต. จำนวน 12 คน ในการเปิดวิสัยทัศน์ โดยเป็นที่ชื่นชอบของพี่น้องประชาชนที่เดินทางมารับฟังการปราศรัย
ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาถึงที่บริเวณงาน ทางพรรคได้นำรถกอล์ฟไฟฟ้ามารอรับ พล.อ.ประวิตร เพื่อนั่งรถเข้าไปยังเวทีปราศรัยที่มีมวลชนจำนวนมากยืนเรียงแถวรอรับตลอดเส้นทางที่ผ่านมา โดยบางคนถือโอกาสมอบดอกกุหลาบสีแดง จน พล.อ.ประวิตร ปลื้มและตื้นตันใจไม่คิดว่าจะมีมวลชนเป็นจำนวนมากเดินทางมารอรับตั้งแต่ช่วงบ่าย ทั้งที่อากาศอบอ้าวและมีแสงแดดส่องจ้าแต่ก็นั่งรอรับ
พร้อมกันนี้ในระหว่างที่ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและ หน.พรรคพลังประชารัฐ นั่งเก้าอี้บนเวทีร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จำนวน 12 คน จากพื้นที่ 3 จชต. ยังมีมวลชนถือโอกาสขึ้นไปมอบบนเวที โดยที่บอดี้การ์ดประจำตัวที่เดินทางมาให้การ รปภ.ในครั้งนี้ ไม่ได้มีการห้ามปรามเพียงแต่คอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ แต่ใช้บอดี้การ์ดของทางพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทำหน้าที่แทน ซึ่งไม่เข้มงวดเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของบุคคลทั้ง 2 คน ที่มีตำแน่งใหญ่โตของรัฐบาล
ซึ่งการขึ้นกล่าวปราศรัยพบปะพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและ หน.พรรคพลังประชารัฐ พอสรุปใจความว่า พรรคพลังประชารัฐได้พิจารณาคัดสรรคนดีที่มุ่งมั่นตั้งใจทํางาน มาเป็นผู้แทนให้กับพี่น้องประชาชน พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขับเคลื่อนกลไกในระดับรัฐบาล และร่วมมือกับรัฐบาลมิตรประเทศ ขับเคลื่อน การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงคลี่คลายและดีขึ้นมาโดยตลอด พื้นที่ที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯลดลงตามลำดับ พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่จะกําหนดให้พื้นที่ ที่ลดความรุนแรง ในการยกเลิก พรก.ฉุกเฉินฯให้ครบทุกอำเภอ เราจะประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ภายในปี 2570 เราจะเดินหน้าพัฒนาเต็มรูปแบบให้พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้กินดีอยู่ดี เข้าใจกันมีงานมีเงินมีรายได้มีความหวัง มีโอกาสไม่ยากจน บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติ ส่งเสริมสนับสนุนกิจการทางศาสนาและการศึกษา สร้างสรรค์พหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข พรรคพลังประชารัฐจะผลักดันระเบียงเศรษฐกิจอาหารฮาลาลส่งออกทั่วโลก ส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานอาหารสัตว์ และผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คู่ขนานกับ 3 รัฐของมาเลเซีย นอกจากนั้นแล้ว พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่จะดูแลพี่น้องประชาชน แก้ปัญหาปากท้องลดค่าครองชีพ ปฏิรูปพลังงานลดราคา น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ สร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ดูแลคนไทยทุกช่วงวัย ทั้งเบี้ยผู้สูงอายุแม่และเด็ก ดูแลผู้พิการผู้ด้อยโอกาสอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำความไม่เป็นธรรม ที่เกิดขึ้นในสังคม
////////////////////////////// 17 มีนาคม 2566