บุรีรัมย์ เจ้าของร้านทำเฟอร์นิเจอร์เซง! แค่เอาทองแดงลงทุนตัดไฟโรงงานรื้อเอาสายไฟเกลี้ยงรื้อแอร์ก็ไม่เว้น

กรกฎาคม 17, 2020กรกฎาคม 17, 2020 admin

เจ้าของร้านทำเฟอร์นิเจอร์เข่าทรุด เปิดโรงงานเร่งทำงานให้ลูกที่สั่ง ถึงกับเซงเมื่อเปิดไฟไม่ติด ตรวจสอบพบสายไฟภายในโรงงานถูกตัด ไม่เว้นแม้คอมแอร์เกลี้ยงยกโรงงาน คาดคนร้ายหวังเอาทองแดงไปขาย เผยสายไฟที่เอาไปจะขายได้ประมาณ 500 บาท แต่ต้องลงทุนตัดไฟทั้งโรงงาน โดยเฉพาะแอร์ราคากว่าหมื่นบาท ถูกรื้อเหลือแต่เศษเหล็ก วอนตำรวจตามจับมาให้ได้

วันที่ 16 ก.ค 2563 ร.ต.อ.ปรฉัตร รักษาวงษ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ ที่ร้าน ประจักษ์เฟอร์นิเจอร์ ตรงข้าม ห้างบิ๊กซี ในเมืองบุรีรัมย์ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นโกดัง รับทำเฟอร์นิเจอร์ ชื่อร้าน ‘ประจักษ์เฟอร์นิเจอร์’ เลขที่ 406 หมู่ 10 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นร้านรับทำงานตามสั่งทุกชนิด เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เตียงนอน เป็นต้น

จากการตรวจสอบ พบไฟฟ้าที่เชื่อมจากหม้อมิเตอร์ไฟฟ้า ถูกตัดสายไฟที่เชื่อมไปยังตัวอาคาร ทำให้ไฟภายในโรงงานดับทั้งหมด และพบว่าสายไฟที่เดินภายในโกดัง ถูกรื้อออกไปทั้งหมด

โดยเฉพาะคอมเพรสเซอร์แอร์ (คอยล์ร้อน) ที่ตั้งอยู่ภายนอกห้อง ถูกรื้อกระจายเพื่อหวังเอาทองแดงที่อยู่ภายในคอมแอร์ ซึ่งพบว่าคนร้ายคาดว่าจะเข้าไปทางหน้าต่างด้านหลัง แล้วไปตัดไฟก่อนจะลงมือรื้อเอาสายไฟทั้งโรงงานไป

นางประจักษ์ รัตน์ธิ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านกล่าวว่า ตนเชื่อว่าคนร้ายเป็นกลุ่มหาของเก่า เพราะตั้งใจจะเอาทองแดงที่อยู่ในสายไฟไปขาย เพราะสายไฟเป็นม้วนๆอีกประมาณ 7-8 ม้วน ที่เอาไว้ในโกดังเพื่อต่อไว้ใช้งานอีกเอาไปหมด นอกจากนี้คนร้ายยังเอาเศษเหล็กที่เหลือจากการทำงาน ซึ่งตนมัดไว้อีก1กระสอบเอาไปด้วย

นางประจักษ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองเจ็บใจมาก ที่โดนคนร้ายมาทำแบบนี้ ตัดสายไฟไปจนหมด แม้แต่จะหาไฟชาร์ท โทรศัพท์ เพื่อจะโทรบอกลูกค้าก็ยังไม่มี ยิ่งกว่านั้นงานที่ลูกค้าสั่งและนัดไว้ ก็ทำต่อไม่ได้ เพราะไม่มีไฟฟ้าทำงาน กว่าจะหาช่างมาต่อไฟก็ต้องใช้เวลา ยอมเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่โดนขโมยของแบบสิ้นคิดแบบนี้ จึงอยากจะเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และเชื่อว่าจะหาไม่ยาก หากเจ้าหน้าที่ตามให้จริงๆ

ด้านนายพงษ์ รัตน์ธิ อายุ 50 ปี สามีเจ้าของร้าน และเป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์ ถึงกับนั่งเซง เมื่อเห็นสภาพที่คนร้ายทำไว้ ไม่สามารถทำงานได้ อยากให้คนที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ทำตัวเสียใหม่ก่อนที่มันจะสาย ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจยิ่งไม่ดี หากินก็ลำบาก ขายของก็ยาก หาเงินหาทองก็ยาก ยังมาซ้ำเติมกันอีก

อย่างไรก็ตามหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้แจ้งกับผู้เสียหายว่าจะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบ เพื่อหาตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป////////////