เปิดประตูระเบียงเศรษฐกิจ “ภาคตะวันออก” สู่ “ภาคใต้” ขนส่งทางทะเล ตอบสนองนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล
เปิดประตูระเบียงเศรษฐกิจ “ภาคตะวันออก” สู่ “ภาคใต้” ขนส่งทางทะเล ตอบสนองนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล
ทรภ.1 บูรณาการร่วมกับ ศรชล.ภาค 1 ให้การสนับสนุน
เปิดประตูระเบียงเศรษฐกิจ “ภาคตะวันออก” สู่ “ภาคใต้” ดูแลความปลอดภัยเส้นทางขนส่งทางทะเล ตอบสนองนโยบาย เปิดประเทศของรัฐบาล
สืบเนื่องจาก นโยบายของรัฐบาลกำหนดให้เปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา โดยอยู่บนพื้นฐานของ มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งนโยบายดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูประเทศ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ มีการคาดหวังว่าจะเป็นการสร้างแรงขับเคลื่อนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้มีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์
ล่าสุด ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา 16.00 น. พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1(ผบ.ทรภ.1)/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ผอ.ศรชล.ภาค 1) พร้อมด้วย พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (รอง ผอ.ศรชล.ภาค 1) เดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมของห้องควบคุมการจราจรทางน้ำ ณ อาคารพักผู้โดยสารเรือเฟอร์รี่ (Ferry Terminal) อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ก่อนที่จะส่งเรือ The Blue Dolphin ออกเดินเรือเป็นวันแรก ซึ่งเรือดังกล่าว เป็นเรือเฟอร์รี่ให้บริการเดินเรือกลุ่มธุรกิจขนส่ง และการท่องเที่ยว เส้นทาง ไป – กลับจาก จว.ชลบุรี (สัตหีบ) ถึง จว.สงขลา (เมืองสงขลา) เป็นการเปิดประตูระเบียงเศรษฐกิจ “ภาคตะวันออก” สู่ “ภาคใต้” ด้วยการขนส่งทางทะเล สำหรับการเดินทางจาก ชลบุรี ไปยัง สงขลา ด้วยเรือ The Blue Dolphin
และในวันนี้ มีกำหนดเดินทางออกจาก ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ เวลา 17.00 น. และจะเดินทางถึง ท่าเรือน้ำลึกสงขลา ในวันที่ 16 พ.ย.64 เวลา 12.00 น. (รวมระยะเวลาเดินเรือ 18 – 20 ชั่วโมง) โดยศูนย์ปฏิบัติการ ทรภ.1 และ ศูนย์ปฏิบัติการ ศรชล.ภาค 1 จะดำเนินการพล็อตติดตามเป้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างการเดินทาง
สำหรับ ทรภ.1 และ ศรชล.ภาค 1 เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลความมั่นคง และความปลอดภัย ของเส้นทางการเดินเรือในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่ จว.ตราด ถึง จว.ชุมพร ด้วยการบูรณาการใช้กำลังทางเรือ และอากาศยาน ร่วมกันลาดตระเวนดูแลความเรียบร้อย และคอยให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่เดินทางสัญจรในทะเล ให้เกิดความปลอดภัย โดยจะดำรงความพร้อมให้การช่วยเหลือหากเกิดเหตุฉุกเฉินในทะเล ได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งประสานงานร่วมกับ ทัพเรือภาคที่ 2 (ทรภ.2) และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 (ศรชล.ภาค 2) ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบทางทะเลในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่าง ให้เกิดความต่อเนื่อง ในด้านการรักษาความปลอดภัยในเส้นทางการเดินเรือ เพื่อให้ผู้ประกอบการ ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว เกิดความมั่นใจในการเดินเรือ และการขนส่งได้อย่างปลอดภัย เป็นการสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล เพื่อช่วยในการฟื้นฟูประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสร้างแรงขับเคลื่อนของภาคธุรกิจ การท่องเที่ยวภายในประเทศให้มีทิศทางที่ดีขึ้น
นาย พิพัฒน์ชัย จันทร์เรือง ผอ.ฝ่ายการตลาด บ.เดอะ ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้ดำเนินการทดลองการเดินเรือ ของเรือ The Blue Dolphin มีการทดสอบระบบความปลอดภัย ผ่านมาตรฐานการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ รวมถึงได้ผ่านการตรวจเรือตามมาตรฐานของกรมเจ้าท่า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ ตั้งแต่เดือน เมษายน 2564 แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และมาตรการควบคุมเข้มงวด ส่งผลให้ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ จึงมีความจำเป็นต้องชะลอการเปิดให้บริการออกไปก่อน ซึ่งในวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2564) เป็นวันแรกของการเปิดให้บริการ กลุ่มธุรกิจขนส่ง และการท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการเปิดประเทศ ของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณกองทัพเรือ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในการเดินเรือ โดยมีการจัดเรือ และอากาศยานช่วยดูแลความเรียบร้อย รักษาความปลอดภัย ในเส้นทางการเดินเรือ ทำให้ผู้ประกอบการ ประชาชน และนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในการเดินทาง และการขนส่งทางทะเล
อีกทั้งยังได้ให้ข้อมูลว่า สำหรับการเปิดให้บริการตามปกตินั้น เรือ The Blue Dolphin จะออกเรือจากท่าเรือต้นทางเวลา 14.00 น. และจะถึงท่าเรือปลายทางเวลา 10.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินเรือ และจองตั๋วโดยสารได้ที่ facebook เพจ The Seahorse ferry
ในกรณี หากเกิดเหตุฉุกเฉินในทะเล สามารถติดต่อ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 3843 8008 /สายด่วน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 หรือ ติดต่อชมรมวิทยุมดดำนาวี ทัพเรือภาคที่ 1 หมายเลขโทรศัพท์ 09 2758 5977 ทางวิทยุมดดำ Super Star ช่อง 21C ความถี่ 27.215 MHz ทางวิทยุย่าน HF ความถี่ 8249 KHz วิทยุย่าน VHF Maritime Band ช่อง 16 ความถี่ 156.800 MHz และสามารถติดต่อ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 ได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 38439 309 หรือ โทร. 09 5862 0506 ตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี จ.ชลบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก