แม่ทัพภาค 4 เผยทลายเครือข่ายขบวนการนำต่างด้าวเข้าเมืองได้แล้วพบโยงใย3จชต.
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
แม่ทัพภาค 4 เผยทลายเครือข่ายขบวนการนำต่างด้าวเข้าเมืองได้แล้วพบโยงใย3จชต.
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 15 ม.ค. 64 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมายังฐานปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ซึ่งตั้งอยู่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้าการตั้งศูนย์บังคับการทางยุทธวิธี ในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่หลบหนีจากพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ตามช่องทางธรรมชาติ โดยมี พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผบ.ชค.ปชด. พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา ผอ.กองปฏิบัติการณ์สำนักอำนวยการข่าวกรอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 20 คน เข้าร่วมประชุมในการชี้แจงการบูรณาการกำลังร่วม ในการสกัดกั้นทางน้ำ ช่องทางธรรมชาติ รวมไปถึงเขตชุมชนเมือง ที่มีภาคประชาชนในการสนับสนุนภาคปฏิบัติในการเฝ้าคอยสังเกตกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ที่สุ่มเสี่ยงต่อการนำเชื้อไวรัสโควิด 19 มาแพร่ระบาดในพื้นที่ ซึ่งล่าสุดจากการบูรณาร่วมการปฏิบัติด้านข่าวสาร เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มขบวนการนำพาบุคคลต่างด้าว ลักลอบเดินทางข้ามตามช่องทางธรรมชาติได้ จำนวน 1 คน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บ้านปะแต ม.6 อ.ยะหา จ.ยะลา ที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปตรวจโรคและกักตัวดูอาการ 14 วัน พร้อมแจ้งดำเนินคดีในข้อหา ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายพ้นการจากจับกุม
ต่อมา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดชุดควบคุมป้องกันชายแดนที่ 3 บริเวณช่องทางธรรมชาติบ้านตันหยงมะลิ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก ที่กำลังยืนปฏิบัติหน้าที่เฝ้าช่องทางธรรมชาติมีสภาพมืด โดยมีแสงไฟของสปอร์ตไลท์ส่องสว่าง ซึ่งทางแม่ทัพภาค 4 ได้เดินตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารเป็นเวลานากว่า 1 ชั่วโมง พร้อมได้หยุดเดินพูดคุยให้กำลังใจแบบเป็นกันเอง โดยทุกนายพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในการสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต่างด้าว สามารถเล็ดลอดข้ามมายังพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งการนี้แม่ทัพภาค 4 ได้ถือโอกาสมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ด้วย
โดย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 ได้เปิดเผยก่อนที่จะเดินทางกลับว่า กรณีกลุ่มนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เราได้มีการเชิญตัวเพื่อซักถาม 1 ราย ก็ยังคงเหลืออีก 2 รายซึ่งเรากำลังติดตามตัวเราก็คงจะใช้ พรก.และกฎอัยการศึกในการควบคุมตัว เพื่อมาซักถามความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง ซึ่งคนแรกที่เราเชิญตัวและควบคุมตัวอยู่ ให้การเป็นประโยชน์จนทราบผู้ที่เกี่ยวข้องถึงขบวนการที่โยงใย ทั้งทางฝั่งมาเลเซียและฝั่งไทย ก็คิดว่าในการดำเนินการตรงนี้สามารถทำให้ขบวนการรายย่อยที่นำพาจากฝั่งมาเลเซียข้ามมายังฝั่งไทยเบาบางลง ซึ่งเราต้องตัดมาตรการวงจรขบวนการนำพา ซึ่งเป็นคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความเชื่อมโยงกัน เป็นคนในพื้นที่ อ.ตากใบ และ จ.ปัตตานี