กาฬสินธุ์แฟนหมอลำเศร้ารอรับศพครูเต้ยผู้จัดการวงศิลปินภูไทรถบัสคว่ำ
กาฬสินธุ์แฟนหมอลำเศร้ารอรับศพครูเต้ยผู้จัดการวงศิลปินภูไทรถบัสคว่ำ
ญาติและแฟนหมอลำคณะศิลปินภูไทสุดเศร้ารอรับศพ “ครูเต้ย”ครูสอนเต้นและผู้จัดการวง หลังจากได้รับอุบัติเหตุรถบัสพลิกคว่ำเสียชีวิตขณะกลับจากการแสดงเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา ขณะที่พ่อและแม่ช็อคสูญเสียลูกชายอย่างกะทันหัน เผยครูเต้ยเป็นลูกกตัญญูและเสาหลักของครอบครัวแต่กลับมาจากไปก่อนวัยอันควร
จากกรณีรถบัสของวงหมอลำศิลปินภูไทเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนถนนวงแหวนกาญจนาตะวันออก(มอเตอร์เวย์) หลัก กม.ที่ 32 +700 มุ่งหน้าบางประอิน แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา หลังกลับจากแสดงที่ตลาดปัฐวิกรณ์ ถนนนวมินทร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 28 ราย เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 210 บ้านท่าแสง ม.7 ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายวัชรไกร เย็นวัฒนา อายุ 28 ปี หรือครูเต้ย ผู้จัดการวงและครูสอนเต้นรำคณะศิลปินภูไท หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างพากันจัดเตรียมสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลและรอรับศพนายวัชรไกร คาดว่าน่าจะมาถึงช่วงเย็นในวันพรุ่งนี้ ท่ามกลางความโศกเศร้า โดยเฉพาะนายเกรียงไกร เย็นวัฒนา อายุ 58 ปี และนางสาวสถาพร อนุศาสตร์ อายุ 54 ปี พ่อและแม่ครูเต้ย ซึ่งยังอยู่ในอาการช็อค และยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกชายที่เป็นเสาหลักของครอบครัวอย่างกะทันหัน โดยนายเกรียงไกร ได้แต่นอนร้องไห้กอดภาพถ่ายลูกชายอยู่ตลอดเวลาและไม่ยอมพูดคุยกับใคร ในขณะที่นางสาวสถาพร แม่ และเพื่อนนักเต้นคนสนิท ก็ยังอยู่ในอาการเศร้าสลดและร้องไห้ออกมาเป็นระยะเช่นกัน โดยในการจัดงานศพทางนายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ได้มอบหมายและกำชับให้นางสวย ภูถมนาค ผู้ใหญ่บ้านท่าแสง ม.7 เข้าให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสียและคอยดูแลอำนวยความสะดวกในการจัดงานศพอีกด้วย
นางสาวสถาพร อนุศาสตร์ อายุ 54 ปี แม่ครูเต้ย กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์ข่าวร้ายเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยลูกสาว ซึ่งเป็นน้องสาวของครูเต้ยและเป็นนักร้องประจำวง เป็นคนแจ้งข่าว ทำให้ตนกับสามีคือนายเกรียงไกร เย็นวัฒนา มีอาการช็อคทันที ซึ่งขณะนี้หลังจากที่ญาติเข้ามาปลอบใจ ตนจึงพอจะตั้งสติได้ แต่สามียังอยู่ในอาการช็อค เอาแต่นอนร้องไห้กอดภาพถ่ายลูกชายตลอดวันไม่ยอมพูดคุยกับใครเลย
นางสาวสถาพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้สามีของตน อดีตก็เคยเป็นหมอลำ และเป็นเพื่อนรักกับวีระพงษ์ วงศ์ศิลป์ หัวหน้าคณะมาตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพเป็นหมอลำ ก่อนที่จะฝากน้องเต้ยเป็นลูกวงของหมอลำวีระพงษ์ กระทั่งเป็นลูกรักในเวลาต่อมา ด้วยความมีเลือดเป็นศิลปินเต็มตัว ทั้งยังมีพรสวรรค์และพรแสวง จึงได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าคณะ ให้เป็นครูฝึกสอนการเต้นรำให้กับหางเครื่องในวง และยังเป็นผู้จัดการวงอีกด้วย
“เนื่องจากบุคลิกดี ใบหน้าหล่อคมคาย จึงมีพ่อยกแม่ยกติดตามผลงานการแสดงมากมาย โดยที่ผ่านมาครูเต้ยเป็นลูกกตัญญู ค่าตัวและพวงมาลัยน้ำใจที่ได้รับจากแฟนคลับ ส่วนหนึ่งก็จะแบ่งมาให้พ่อแม่ และญาติทางบ้านใช้จ่ายตามสมควร ครูเต้ยจึงเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว ที่น่าเสียใจที่สุดคือกำลังจะสร้างบ้านให้พ่อแม่ โดยมาซื้อที่ปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ที่บ้านท่าแสง แต่กลับมาประสบอุบัติเสียชีวิตดังกล่าว” นางสาวสถาพรกล่าวทั้งน้ำตา
ด้านนายพัฒนกร แสงไสย์ อายุ 29 ปี เพื่อนสนิทครูเต้ย กล่าวว่า ตนกับครูเต้ยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เป็นเพื่อนรักและสนิทกันมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะอายุสั้นขนาดนี้ เมื่อคืนยังโทรศัพท์คุยกันอยู่เลย ทั้งนี้ คืนก่อนที่จะเกิดเหตุยังร่วมงานแสดงบนเวทีด้วยกันอยู่เลย ตนมีธุระจึงเดินทางกลับก่อน ไม่น่าเชื่อจะได้รับข่าวร้ายและคนเสียเสียชีวิตจะเป็นครูเต้ย การจากไปของครูเต้ยจึงทำให้สูญเสียบุคคลในวงการบันเทิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งตนและเพื่อนยังรู้สึกเสียใจและยังทำใจไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าศพจะมาถึงบ้านพรุ่งนี้ ส่วนวันฌาปนกิจจะเป็นวันใดนั้น ต้องรอญาติปรึกษากันอีกที เพราะตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมงานและยังเศร้าสลดกันอยู่
ทั้งนี้ ครูเต้ย เรียนจบคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกศิลปะการแสดง จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) จากนั้นเดินทางไปตามความใฝ่ฝันและหาประสบการณ์ โดยไปทำงานเป็นนักแสดงหน้าเวทีและนักเต้นรำที่กรุงเทพฯ ก่อนที่พ่อหมอลำวีระพงษ์จะเชิญชวนมาร่วมวงดังกล่าว โดยเป็นทั้งครูฝึกสอนเต้นรำและผู้จัดการวง รวมทั้งร้องรำด้วย ซึ่งวีระพงษ์ วงศ์ศิลป์ กำลังจะปั้นให้เป็นหมอลำดาวเด่นแทนตนในอนาคต และเป็นกำลังหลักสำคัญในการบริหารจัดการวงอีกด้วย แต่กลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว ทำให้บรรดาแฟนวงหมอลำศิลปินภูไทต่างรู้สึกเสียใจ และอาลัยอย่างมากในการจากไปครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับคณะศิลปินภูไท มีสำนักงานที่ตั้งอยู่ที่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวของคณะหมอลำในประเทศไทย ที่ยังอนุรักษ์ทำนองลำกาฬสินธุ์ สารคาม กาเต้นก้อน ซึ่งเป็นทำนองลำโบราณในพื้นที่ภาคอีสานได้นำมาประยุกต์เข้ากับสังคมยุคปัจจุบัน โดยมีพ่อวีระพงษ์ วงศ์ศิลป์ เป็นหัวหน้าวงหมอลำคณะศิลปินภูไท ซึ่งผ่านประสบการณ์ชีวิตหมอลำมายาวนานเกือบ 30 ปี ได้รับบทเป็นทั้งพระเอก พ่อพญามาหลายคณะ ไม่ว่าจะเป็น หมอลำคณะฟ้าสีคราม หมอลำคณะซุปเปอร์สารคาม ซึ่งในยุคนั่นถือว่าเป็นหมอลำที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดใน จ.มหาสารคาม ก็ออกเดินสายลำทั่วอีสานในหลายจังหวัด เช่น ร้อยเอ็ด ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น สกลนคร นครพนม หนองคาย บึงกาฬ และอุบลราชธานี และสุดท้ายตัดสินใจมาตั้งวงเอง เมื่อ พ.ศ.2547 แรกเริ่มตั้งเป็นวงดนตรีศิลปินภูไทหมอลำพื้นบ้านอีสาน เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมคนภูไท จากนั้นก็พัฒนาปรับปรุงวงใหญ่ขึ้น โดยนำเอาทั้งเพลงสตริง เพลงสากล เพลงไทย เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกทุ่งหมอลำ มาแสดงแสดงโชว์ ตลก เครื่องดนตรีสากล เข้ามาเสริมให้ดูยิ่งใหญ่อลังการตามยุคสมัย