รถไฟให้บริการวันแรกแบบวิถีชีวิตใหม่ไม่คึกคัก

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

รถไฟให้บริการวันแรกแบบวิถีชีวิตใหม่ไม่คึกคัก

รายงานข่าวความเคลื่อนไหวกรณีการเปิดให้บริการรถไฟวันแรกทั่วประเทศในวันนี้ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 แบบวิถีชีวิตใหม่ หรือ NEW NORMAL ที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสถานีรถไฟต้นทางของภาคใต้ ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารทั้งหมด จำนวน 14 ขบวน ซึ่งขบวนแรกออกจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี เวลา 06.30 น. พบว่า มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการบางตา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่ารถไฟเปิดให้บริการตามปกติแล้ว ซึ่งทุกคนต้องผ่านขบวนการคัดกรองตามมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 คือ 1. ต้องสวมหน้ากากอนามัย 2. ผ่านการตรวจสอบด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน วัดอุณหภูมิของร่างกาย 3. ล้างมือด้วยเจล 4.กรอกแบบฟอร์มคำร้องประกอบการซื้อตั๋ว และ 5. กรอกเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อที่นำติดตัวไปแสดงกับนายสถานีปลายทาง ว่าได้ผ่านการตรวจโรคและคัดกรองแล้ว

ส่วนกรณีโบกี้โดยสารที่ปกติการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดไว้รองรับเพื่อให้ผู้โดยสารนั่ง จำนวน 76 ที่นั่งนั้น เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงจัดที่นั่งให้ผู้โดยสารนั่งเพียง 38 ที่นั่งเท่านั้น โดยได้ทำเครื่องหมายกากบาทและพิมพ์ข้อความภาษาไทยห้ามนั่งติดไว้ เพื่อที่จะให้ประชาชนที่ใช้บริการมองเห็นได้เด่นชัด

นอกจากนี้แล้วในช่วงเวลาเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 23.00 น. ถึง 02.00 น. จะมีขบวนรถไฟที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟกรุงมหานคร และจากสถานีรถไฟกรุงเทพ จรดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จำนวน 4 ขบวน คือ ขบวนรถเร็ว ที่ 171 และ 172 รวมทั้งขบวนรถด่วนที่ 37 และ 38 จะไม่จอดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี และสถานีรถไฟชุมพร จนกว่าจะมีการประกาศปลดล็อกจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.

ด้านนายสุริยา กาเด็น ผู้ช่วยนายสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก กล่าวว่า อยากจะฝากบอกพี่น้องประชาชนที่ใช้บริการรถไฟในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่ต้องการเดินทางมาใช้บริการของการรถไฟ ขอให้พี่น้องประชาชนเดินทางมาล่วงหน้า เพราะว่าต้องมีการสแกนบาร์โค้ดที่จัดตั้งไว้ และกรอกแบบฟอร์มข้อมูลซึ่งมันต้องใช้เวลาและจะได้ไม่เสียเวลากับพี่น้องประชาชนคนอื่นๆ