สุราษฎร์ธานี // บิ๊กป้อม คอนเฟอร์เรนซ์ หารือแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ โดยมั่นใจยกระดับค้ามนุษย์ดีขึ้นเผยจับกุมคดีค้ามนุษย์สูงกว่าปี 2563.
สุราษฎร์ธานี // บิ๊กป้อม คอนเฟอร์เรนซ์ หารือแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ โดยมั่นใจยกระดับค้ามนุษย์ดีขึ้นเผยจับกุมคดีค้ามนุษย์สูงกว่าปี 2563.
รายงาน : พจน์ คำจันทร์
วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.00 น. ที่ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และ การช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ พ.ศ. 2565 รวมทั้งแถลงผล การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทย โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานอัยการสูงสุด รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference
โดยที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุชาติ แสงพรม พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมหารือและรับฟัง แผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดีและการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงานหรือบริการ 2565 ณ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนราชการได้ผนึกกำลังเพื่อผลักดันให้ผลงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยก้าวหน้าเป็นที่ประจักษ์ โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ พ.ศ. 2565 เพื่อยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในทุกขั้นตอนของกลไกการส่งต่อระดับชาติ แนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการคดี และการกำกับและติดตามแผนปฏิบัติการฯ รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานใช้เป็นกรอบแนวทางและขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ IOM นับว่าประเทศไทยเป็นต้นแบบในภูมิภาคอาเซียน
รัฐบาลไทยได้ใช้ความพยายามสืบสวนปราบปรามทางสื่อออนไลน์ และสกัดจับการลักลอบขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมทั้งการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) ทำให้มีผลการจับกุมคดีค้ามนุษย์เพิ่มมากขึ้นจากปี 2563 จาก 133 คดี เพิ่มขึ้นเป็น 188 คดี โดยย้ำเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป และขอบคุณผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติทุกหน่วยงานที่ทุ่มเททำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม NGOs ผสานความร่วมมือดำเนินการในกรอบเวลาที่กำหนด หากพิจารณาจากผลงานที่ก้าวหน้าไปมากของรัฐบาล เชื่อมั่นว่าประเทศไทยสมควรได้รับการเลื่อนระดับเข้าสู่เทียร์ 2 ในปีนี้ .