หาย 9 วัน ไร้ปฎิหาริย์ แม่ปล่อยโฮ พบ”ภาคิน”เป็นศพลอยกลางเหมืองน้ำ ชาวเน็ตแห่โพสไว้อาลัย
หาย 9 วัน ไร้ปฎิหาริย์ แม่ปล่อยโฮ พบ”ภาคิน”เป็นศพลอยกลางเหมืองน้ำ ชาวเน็ตแห่โพสไว้อาลัย
ข่าวการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ ด.ช.ภาคิน คิดตลอด อายุ1ปี7เดือน ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ18.00นของวันที่1เมษายน 62 จนสื่อมวลชนทุกสำนักติดตามสถานการณ์การระดมค้นหาในรูปแบบต่างๆ จนเป็นข่าวโด่งดังระดับเทศไปตลอดทั้ง9วัน สำหรับการหายตัวไปของ”ภาคิน”ถูกเปิดเผยขึ้น หลังจากที่ น.ส.อารยา ขัวลำหาญ อายุ23ปี อยู่บ้านเลขที่343หมู่ที่3ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง เมื่อช่วงเย็นวันที่1เมษายน62 ว่า น้องภาคิน วัย1ขวบ7เดือน ได้หายตัวไปขณะนั่งเล่นอยู่กับสุนัขพันธู์ไทยซึ่งพิการมีขาแค่3ขา อยู่บริเวณหน้าบ้านและห่างจากลำคลองชลประทานสาย3เพียง49เมตร
น.ส.อารยา”แม่ของ”ภาคิน”ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง ว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทำงานอยู่ที่ โรงน้ำดื่มแห่งหนึ่งในเขตอำเภอท่ายาง และได้ลางานหยุดช่วงเช้าวันเกิดเหตุ จึงนำ”ภาคิน”ไปฝากเลี้ยงกับ”นางน้อย “ผู้รับจ้างเลี้ยงเด็ก โดยนำ”น้องภู “พี่ชายของ”ภาคิน”ไปด้วย หลังไปส่ง”ภาคิน”เสร็จ จึงเดินทางไปหา น.ส.อัมพร หรือดาว สีใส อายุ 27 ปี เพื่อนสนิท เพื่อให้เพื่อนย้อมผมให้ กระทั่งย้อมเสร็จสรรพ จึงเดินทางไปรับ”ภาคิน”ที่บ้านของ”นางน้อย” ที่หมู่บ้านดอนขุนห้วย”และขากลับบ้านขับขี่รถผ่านร้านสะดวกซื้อสาขาเขื่อนเพชร จึงแวะกดเงินที่นายโชคชัย คิดตลอด ผู้เป็นสามีซึ่งทำงานอยู่ใน กทม โอนมา จำนวน3000บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อนมให้ภาคิน และค่าขนมของน้องภูพี่ชายของภาคิน โดยในวันนั้น”อารยา”กดเงินแค่500บาท จากนั้นได้”จุงภาคินและภู”เข้าไปซื้อนมและขนมในร้านสะดวกซื้อให้”ภาคินและภู”หลังจากนั้นได้พากันเดินทาง”กลับบ้าน”พร้อมกันทั้ง”อารยา ภาคินและภู” เมื่อถึงบ้าน ” อารยา”เข้าครัว”ด้านหลังบ้าน ส่วน”ภู”นั่งดูทีวีอยู่ภายในบ้านกับ”หนูนา”ผู้เป็นยาย ส่วน””ภาคิน” เล่นซนตามวัยอยู่กับสุนัข”เจ้าสามขา”อยู่บริเวณพื้นดินหน้าบ้าน ซึ่งห่างจากบ้านเล็กน้อย ต่อมาประมาณ15นาที “อารยา”ที่กำลังปรุงอาหารอยู่ในครัว”เห็นว่า “ภาคิน”นั้นไม่ส่งเสียงเอะอะขณะเล่นเหมือนทุกๆครั้ง “อารยา”จึงส่งเสียงเรียก”ภาคิน”แต่ไม่ได้รับเสียงตอบจาก”ภาคิน” อารยา จึงเดินออกจาก”ครัว”เพื่อมาดู”ภาคิน”แต่ไม่เห็นทั้ง”ภาคินและเจ้าหมาสามขา”อารยา จึงรีบวิ่งออกมาดู ตรงถนนและลำคลองชลประทาน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านจำนวน49เมตร แต่ก็ไม่พบทั้ง”ภาคินและเจ้าสามขา” ทำให้ อารยา “มั่นใจ100% ว่า ภาคินพลัดตกคลองที่มีปริมาณน้ำที่สูงและไหลเชี่ยวอย่างแน่นอน ส่วน”เจ้าสามขา”ต่อมามีคนเห็นว่ากำลังเดินหลงอยู่แถวบริเวณแยกไฟแดงบ้านท่าคอย จากนั้นอารยาจึงโทรบอกนายโชคชัยพร้อมกับโทรหานายหนู ขัวลำหาญ ผู้เป็นพ่อ ซึ่งขณะนั้นนายหนู ทำธุระอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง และบอกชาวบ้านใกล้เคียง ช่วยโทร เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนนำไปสู
่การ”ประสาน จนท.มูลนิธิสว่างสรรเพชญฯเพื่อติดตามค้นหา ทางน้ำทันที ตลอดการระดมค้นหาตั้งแต่วันที่1-3 เมษายน เจ้าหน้าที่ไม่พบร่างของภาคิน จนนำไปสู่การติดตามสืบสวนหาข่าวทุกช่องทาง อีกทั้งมีข่าวลือแพร่สะพัดเข้ามาว่า อารยา แม่ของภาคิน อาจจะมีส่วนรู้เห็นต่อการหายตัวไปของลูกชาย ทำให้ นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี สั่งการให้ พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.อาชวิน บุญธรรมเจริญ ผกก.สภ.ท่ายาง พ.อ.สนอง ธัญญนนท์ หัวหน้าการข่าว กอ.รมน.จว.เพชรบุรี นายอานนท์ พร้อมเพรียง นายอำเภอท่ายาง ประสานกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานหลายหน่วยงาน อาทิ ศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ ตชด.จนท.มูลนิธิสว่างสรรเพชรธรรมสถาน อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันและสาธารณภัยเทศบาลตำบลท่ายาง ภายใต้การนำของ นางนฤมล กิจพ่วงสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง สนธิกำลัง ระดมกำลังปูพรมค้นหาทั้งทางน้ำ โดยประสานเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเขื่อนเพชร อำนวยความสะดวกปรับลดระดับน้ำลง100%จนปริมาณน้ำในคลองแห้งขอด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปูพรมค้นหาตามรอยแตกของปูนซีเมนต์ก้นคลอง ตามท่อลอด ท่อไส้ไก่ ตลอดลำคลอง แต่ยังไม่สามารถพบร่างของภาคิน ส่วนการค้นหา ทางบก เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกับมูลนิธิกระจกเงาพร้อมใช้สุนัขดมกลิ่นเข้ามาช่วยค้นหาร่องรอยภายในสวนมะม่วง กล้วย มะนาวและทั่วบริเวณโดยรอบบ้านพักของภาคิน แต่ก็ยังไร้วี่แวว นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังใช้เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นตรวจสอบทางภาคอากาศในรัศมีวงกว้าง 10 กม.นับจากจุดเกิดเหตุ แต่ตลอดระยะการค้นหา ทั้งสามทาง ยังไร้ร่องรอยจากการหายไปของ”หนูภาคิน”ซึ่งเป็นที่แปลกใจของเจ้าหน้าที่ ส่วนการติดตามการหาข่าวของเจ้าหน้าที่ก็ยังดำเนินตวบคู่กันไปกับการติดตามค้นหา พร้อมกับประกาศติดตามคนขายตามช่องทางต่างๆบรรดาสื่อมวลชนทุกแขนงทุกสำนักก็เกาะติดสถานการณ์การติดตามค้นหาตั้งแต่วันที่1-8เมษายน 62 กระทั่งเมื่อช่วงเวลา08.45 น.วันที่9 เมษายน 62 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนายสมเกียรติ จันทร์ลาด อายุ 53ปี ว่าพบศพเด็กอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าลอยอยู่ในเหมืองส่งน้ำเข้านา หรือท่อไส้ไก่ ใกล้กับวัดตาลกง หมู่ที่2 บ้านหนองข้าวนก ต.ไร่มะขาม อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 กม ภายหลัง ร.ต.อ.สมศักดิ์ เทียมเมฆา รองสารวัตรสอบสวนสภ.บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี รับแจ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดตรวจสอบ โดย สภาพที่พบ เป็นศพลอยมาติดอยู่ภายในเหมืองไส้ไก่ขนาดกว้าง 50 เซนติเมตร ลักษณะนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อยืดสีเข้มถลกขึ้นมาถึงหน้าอก ไม่สวมกางเกง
ต่อมาพ.ต.อ.เชิญ พรายมี ผกก.สภ.บ้านลาด พร้อมด้วย แพทย์เวรและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพ็ชญธรรมสถาน ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมทั้งรับตัวแม่น้องภาคินคือนางอารายา ชัวลำหาน และตาของเด็กมาดู แม่ของน้องภาคิน ยืนยันว่าใช่น้องภาคินจริง พร้อมกับร้องไห้เสียใจอย่างน่าเวทนา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพน้องภาคินไป รพ.นิติเวชเพื่อชันสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
สำหรับจุดที่พบศพน้องภาคิน สำหรับระยะเส้นทางนับจากจุดที่ ภาคิน พลัดตกลงคลองชลประทานสาย 3 จนกระเเสน้ำพัดพามาถึงยังจุดพบศพมีระยะห่างประมาณ 15 กม. ซึ่งมีความสอดคล้องกันกับที่อารยาแม่ของเด็กได้ให้การกับเจ้าหน้าที่
หลังพบร่างของน้องภาคิน แล้ว อารยา แม่ของเด็กเปิดเผยว่า ครอบครัวตนได้เตรียมทำใจไว้เเล้ว เพราะการหายตัวของน้องภาคินล่วงเลยมาถึง9วัน ซึ่งตนและครอบครัวก็มั่นใจมาโดยตลอดว่า น้องภาคิน พลัดตกลงคลองอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านั้น ภาคิน ชอบให้แม่พามาเล่นน้ำอยู่เป็นประจำ แต่ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ตนรู้สึกเสียใจที่ลูกต้องมาตกอยุ่ในสภาพแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตนจุงมือภาคินเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบมาได้นั้นิจะเป็นภาพสุดท้ายที่มือแม่กับภาคินได้สัมผัสกันเป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ระดมกำลังกันติดตามค้นหาภาคินจนถึงวันพบร่างน้องภาคิน
ด้าน พ.ต.อ.อาชวิน บุญธรรมเจริญ ผกก.สภ.ท่ายาง เปิดเผยว่า คดีนี้นับเป็นการสูญเสียของบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตนั้นเป็นเด็กที่อยู่ในวัยกำลังซุกซน จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น โดยตลอดระยะที่ผ่านมาตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันพบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง ไม่ได้นิ่งนอนใจในการเร่งติดตามค้นหาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามสืบสวนหาข่าว แกะรอยจากกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาประมวลเหตุการณ์ตามคำให้การของผู้เป็นแม่ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการสืบสวนในเชิงลึก ประกอบกับประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆเพื่อขอความร่วมมือนำทั้งอุปกรณ์และ กำลังพล มาติดตามค้นหาทั้งทางน้ำ ทางบก ภาคทางอากาศ ตลอดการค้นหาทั้ง8วันกระทั่งพบศพน้องภาคินซึ่งลอยไปตามดระเเสน้ำกว่า15กม ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ประกอบกับจากการสอบถามมารดาของภาคิน ก็ยังยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นฆาตรกรรมอำพรางแต่เชื่อว่า เป็นอุบัติเหตุพลัดตกน้ำเอง โดยตนในฐานะ ผกก.ต้องขอขอบคุณไปยังอาสาสมัครและประชาชนพร้อมทั้งจิตอาสาทุกคนที่ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง ออกติดตามค้นหาน้องภาคินตั้งแต่วันที่1-8เมษายน จนกระทั่งพบน้องภาคินกลายเป็นศพดังกล่าว และต้องขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของน้องภาคินที่เกิดการสูญเสียในครั้งนี้
กสิพล ศิริลาภ-เพชรบุรี