ตม.นราฯเอกซเรย์พื้นที่จับอินเดียและปากีสถาน13คนแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว หาโอกาสลอบไปทำงานมาเลย์
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
ตม.นราฯเอกซเรย์พื้นที่จับอินเดียและปากีสถาน13คนแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว หาโอกาสลอบไปทำงานมาเลย์
พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.66 ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.กรัณฑ์วาริษฐ์ สมจันทร์ สว.ตม.จว.นราธิวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกปฏิบัติหน้าที่พื้นที่สุ่มเสียง โดยเฉพาะช่องทางข้ามตามธรรมชาติในพื้นที่รับผิดชอบ ในการเอกซเรย์การแอบลักลอบเข้าเมืองของบุคคลต่างด้าว เมื่อถึงบริเวณริมถนนประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อกับช่องทางธรรมชาติ พบบุคคลต่างด้าว จำนวน 13 คน มีการถือเป้และแบกสัมภาระจำนวนหนึ่ง จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติอินเดีย จำนวน 12 คน และสัญชาติปากีสถาน 1 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 27 ถึง 32 ปี เมื่อทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสาร มีการประทับตราเข้ามาถูกต้องแต่อยู่เกินกำหนดอนุญาต ส่วนบุคคลต่างด้าวสัญชาติปากีสถาน พบว่าไม่มีการประทับตราเข้ามาในประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดไปสอบสวนที่ทำการ ตม.จว.นราธิวาส จึงได้ทำบันทึกจับกุมและแจ้งข้อหาบุคคลต่างด้าว 10 คน
ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ส่วนบุคคลต่างด้าวสัญชาติอินเดีย 2 คน และปากีสถาน 1 คน ที่ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกในราชอาณาจักรแต่อย่างใด ให้การรับสารภาพว่าอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย จากนั้นได้เดินทางมาเข้ามาในประเทศไทย โดยผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งมิใช่ช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานีหรือท้องที่ตามที่กำหนด ไม่ยื่นแบบรายการตามแบบและไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่, เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนที่จะนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
///////////////////////////// 8 พฤศจิกายน 2566