กอ.รมน.จังหวัด สตูล สนธิกำลังตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนตามแผน “เพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน”
กอ.รมน.จังหวัด สตูล สนธิกำลังตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนตามแผน “เพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน”
กอ.รมน.จังหวัดสตูลร่วมกับ ศรชล.จังหวัดสตูล,ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าชายฝั่งและป่าชายเลน, ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลน จ.สตูล , ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 – 27 , จนท.ปทส.กก.6 ปป.,สภ.เมืองสตูล, ศูนย์ป่าไม้ จ.สตูล, ฝ่ายปกครอง อ.เมืองสตูล ,สนง.ทสจ.สตูล, ชปข.(ลับ) 203 ศปก.ทภ.4 , ร้อย.ตชด.436 , ส.รน.3 กก.9 บก.รน.(ตำรวจน้ำสตูล)
และ กำนัน ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล พร้อมด้วย ผู้ใหญ่บ้าน บ้านนาแค หมู่ 5 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล สนธิกำลังตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนตามแผน “เพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน” ท้องที่ จ.สตูล ประจำปีงบประมาณ 63 บริเวณท้องที่บ้านนาแค หมู่ 5 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ซึ้งเป็นพื้นที่จำแนกเขตการให้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 22 ส.ค.43, ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 17 ต.ค.43 และเป็นพื้นที่ป่าตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2548 ผลการตรวจสอบพบ “เป็นพื้นที่ป่าชายเลนถูกปรับพื้นที่และเข้าทำประโยชน์ โดยการปลูกพืชผลอาสิน เป็นต้นปาล์มน้ำมัน จำนวน 123 ต้น ,ต้นมะพร้าว จำนวน 238 ต้น และต้นมะม่วงหิมพานต์ จำนวน 6 ต้น รวมพืชผลอาสิน จำนวน 367 ต้น พื้นที่ป่าชายเลน เนื้อที่ จำนวน 29 ไร่ – งาน 72 ตารางวา ไม่พบตัวผู้กระทำผิดในที่เกิดเหตุ ในการนี้ คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว การเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินโดยมิได้มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เป็นการบุกรุกเข้าครอบครองเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่จำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน อันเป็นพื้นที่ทางราชการสงวนอนุรักษ์ไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติป่าชายเลน
และเป็นพื้นที่ป่าตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2548 จึงมีความเห็นว่า “ผู้ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นการเข้าครอบครองทำประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฏหมาย จึงได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ ตรวจสอบ จำนวน 29 ไร่ – งาน 72 ตารางวา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐานความผิด “ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครองหรือครองครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมาย อันเป็นความผิดตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2485 และแก้ไขเพิ่มเติม ความมาตรา 54, 55 และ มาตรา 72 ทวิ” โดยได้มอบเรื่องราวให้ นายวิสิษฐ์ สุทธิสว่าง ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 รับไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล