สตูล ขนมตาปัยจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ผลิตภัณฑ์หมู่บ้านโอท็อปเพื่อการท่องเที่ยว
สตูล ขนมตาปัยจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ผลิตภัณฑ์หมู่บ้านโอท็อปเพื่อการท่องเที่ยว
วันนี้ 7 ตุลาคม 2562 ที่ ม.5 บ้านทาง จ.สตูล ทำข้าวหมากหรือตาปัย ซึ่งเกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมานับร้อยปี จนกลายเป็นอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่ หากจะกินข้าวหมากหรือตาปัย ต้องมาหาซื้อที่บ้านทางงอเท่านั้น ถือว่าเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่อร่อยสุดสืบทอดกันมาเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว
นางมินะ หมาดรา อายุ 60 ปี ชาวบ้านม.5 ต.ควนสตอ กล่าวว่าตนได้รับการถ่ายทอดการทำแป้งข้าวหมากและข้าวหมากซึ่งคนท้องถิ่นที่นี่เรียกว่าตาปัย เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนสมัยโบราณที่นำสมุนไพรต่างๆมาบดรวมกันและปั้นเป็นลูกแป้งเก็บไว้ทำเป็นขนม ข้าวหมากหรือตาปัยที่ทำเสร็จแล้วจะนุ่มและมีรสหวาน ส่งกลิ่นหอม กินแล้วจะให้ความสดชื่น สามารถบำบัดอาการของโรคเรื้อรังต่างๆ ได้ ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ แก้ปัญหาวัยทอง ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวพรรณดี ผิวใส อีกด้วย ซึ่งการทำตาปัยเริ่มจากการนำสมุนไพร เช่นพริกแห้ง พริกไทย ขิง ไม้หวานสด กระเทียมฯลฯ ตามสูตรนำไปตากแดดให้แห้ง 3 แดดจากนั้นก็นำไปบดให้แห้งละเอียดและนำไปคลุกกับแป้งปั้นเป็นลูกครึ่งวงกลมหรือเรียกว่า 1ฝาเมื่อได้ลูกแป้งแล้ว ก็นำไปคลุกกับข้าวเหนียวขาวหรือดำที่นึ่งหรือหุงสุกแล้วโดยต้องทำให้ลูกแป้งละเอียดโรยบนข้าวเหนียว ข้าวเหนียว 1 ก.ก.ใช้ลูกแป้ง 2 ฝา จากนั้นตักใส่ใบตองห่อ หากเป็นข้าวเหนียวหุงใช้เวลา 1 วันสามารถรับประทานได้ แต่หากเป็นข้าวเหนียวนึ่ง จะใช้เวลา 2 วันก็นำไปรับประทานได้
น.ส.บีเซาะห์ เกปัน ฝ่ายประชาสัมพันธุ์หมุ่บ้านโอท็อปเพื่อการท่องเที่ยว บอกว่าขณะนี้หมู่บ้านได้ยกระดับเป็นหมู่บ้านโอท็อปเพื่อการท่องเที่ยว ตาปัยถูกนำเป็นสินค้า1 ใน10ผลิตภัณฑ์ในชุมชน จากที่เคยห่อใบตอง จึงต้องนำใส่กระปุกแพ็คเก็ตให้สวยงามเพื่อสามารถจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวนำไปเป็นของฝากได้ โดยที่ใส่ใบตองขายห่อละ 3 บาท ที่ใส่ในกระปุกขายกระปุกละ 19 บาท ส่วนลูกแป้งขายฝาละ 5 บาท และใช้ชื่อว่า “ข้าวหมากตาปัย” เพื่อให้คงเอกลักษณ์คำว่าตาปัยซึ่งเป็นคำเฉพาะของชาว อ.ควนโดน ความพิเศษของข้าวหมากที่ไม่เหมือนกับขนมชนิดอื่นคือความสะอาด ทุกอย่างแม้นแต่ภาชนะที่ใส่ล้วนต้องสะอาด หากทำไม่สะอาดแม้นแต่คนทำหากไม่สะอาดหรือแม้นมีประจำเดือนก็ไม่สามารถทำได้ ข้าวหมากจะกลายเป็นสีแดงและเปรี้ยวทันที ซึ่งหลายคนที่ไม่เชื่อคำโบราณที่สอนกันมา ทดลองทำปรากฏว่าข้าวหมากที่ได้จะกลายเป็นสีแดงและรสเปรี้ยวใช้ไม่ได้ สำหรับข้าวหมากตาปัยของนางมินะ สามารถหารับประทานได้ทุกวันจันทร์ที่ตลาดหน้ารพ.ควนโดน วันพุธ ที่ตลาดประชารัฐและเสาร์-อาทิตย์ที่เขาบอฆะ ซึ่งความอร่อยของข้าวหมากตาปัยเมื่อซื้อแล้วต้องกลับมาซื้อซ้ำทุกคน
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล