กาฬสินธุ์ญาติยันเสี่ยไร่อ้อยรัว 7 นัดต้องรับโทษสูงสุดชี้ทำเกินกว่าเหตุ
กาฬสินธุ์ญาติยันเสี่ยไร่อ้อยรัว 7 นัดต้องรับโทษสูงสุดชี้ทำเกินกว่าเหตุ
ญาติหนุ่มทหารเกณฑ์ยืนยันเสี่ยไร่อ้อยรัว 7 นัดต้องได้รับโทษสูงสุด ระบุทำเกินกว่าเหตุ ขณะที่ตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากนอนในห้องขังยังมีความเครียด เบื้องต้นแจ้ง 4 ข้อหาหนัก
ความคืบหน้านายเชาว์ สุไชยชิต หรือเสี่ยไร่อ้อยอายุ 50 ปี ชาว ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ก่อเหตุยิงนายรัชพงษ์ สิงห์ครุฑ อายุ 22 ปี เสียชีวิตที่บริเวณหน้าร้านขายของชำเลขที่ 71 หมู่ที่ 8 ต.จุมจังแล้วหลบหนีไป เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากผู้ตายพูดไม่เข้าหู กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ในหนองน้ำเขตพื้นที่บ้านสมสะอาด ต.สมสะอาด อ.กุฉินารายณ์ พร้อมของกลางกระสุนปืนขนาด9มม.จำนวน 50 และนำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก แต่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้และนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากมีอาการเครียดและอาการคลุ้มคลั่งร้องตะโกนเสียงดังเอะอะโวยวายอยู่เป็นระยะขณะอยู่ในห้องขัง
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 7 มีนาคม 2564 พ.ต.ท.สมหมาย ภูจอมสิงห์ สว.สภ.บ้านหนองเม็ก อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนเดินทางเข้าสอบถามญาติเบื้องต้นที่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 7 ต.เหล่าไฮงาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายรัชพงษ์ โดยญาติและเพื่อนบ้านกำลังจัดเตรียมงานศพ คาดว่าศพของนายรัชพงษ์ ซึ่งถูกส่งไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่นจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ 8 มีนาคม 2564 ซึ่งญาติจะทำพิธีฝังตามประเพณีต่อไป
นางสาวณัฏฐากร สิงห์ครุฑ อายุ 25 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปัจจุบันน้องชายเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเพิ่งฝึกเสร็จก่อนจะกลับมาเยี่ยมบ้าน และจะกลับไปเข้าค่ายในวันที่ 10 มีนาคมนี้ ในวันเกิดเหตุทราบว่าน้องชายบอกว่าจะไปหาเพื่อนสาว แต่ไม่คิดว่าจะมาโชคร้ายถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาน้องชายก็ไม่เคยมีเรื่องกับใคร เป็นเสาหลักครอบครัว ทำมาหากินเลี้ยงแม่ ส่วนพ่อเสียชีวิตไปนานแล้ว ทั้งนี้ตนและญาติอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุถึงที่สุด และอยากให้ได้รับโทษสูงสุด เพราะเป็นการกระทำที่เกิดกว่าเหตุ ทั้งๆที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน
ขณะที่ พ.ต.ท.สมหมาย ภูจอมสิงห์ สว.สภ.บ้านหนองเม็ก อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของคดีล่าสุดเจ้าหน้าที่ค้นหาอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุพบแล้ว ซึ่งถูกนำไปซ่อนไว้ที่กระท่อมกลางทุ่งนาใกล้กับจุดที่พบตัวนายเชาว์ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนตัวผู้ก่อเหตุนั้นพนักงานสอบสวนยังไม่สามารถสอบปากคำและนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากยังมีความเครียดอยู่ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้นได้ส่งเสียงร้องอยู่ในห้องขัง และยังพูดจาค่อนข้างไม่รู้เรื่อง จึงต้องรอให้อาการดีขึ้นและได้สติเสียก่อนจึงจะสอบปากคำอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามจากการสอบถามพยานแวดล้อมและผู้เกี่ยวข้องสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการพูดจาเสียดสีกัน ซึ่งปกตินายเชาว์ผู้ก่อเหตุนั้นก็มีนิสัยอารมณ์ร้อนจึงก่อเหตุดังกล่าว และเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแล้วประกอบด้วย 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ 3.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ4.ยิงปืนในที่สาธารณะหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร