ผ่านไปกว่า 15 ชั่วโมง ยังได้ยินเสียงร้อง เด็กหญิงขวบเศษตกรูบ่อบาดาล แม่ใจแทบขาด ด.ญ.วัย 1 ขวบเศษ ตกหลุมลึก 15 เมตร ทหาร กู้ภัย เร่งเจาะโพรงลึกช่วย ยังได้ยินเสียงน้องร้องไห้
ผ่านไปกว่า 15 ชั่วโมง ยังได้ยินเสียงร้อง เด็กหญิงขวบเศษตกรูบ่อบาดาล แม่ใจแทบขาด ด.ญ.วัย 1 ขวบเศษ ตกหลุมลึก 15 เมตร ทหาร กู้ภัย เร่งเจาะโพรงลึกช่วย ยังได้ยินเสียงน้องร้องไห้
ทหารชายแดนตาก ร่วมระดมกำลังกว่า 100 คน เร่งช่วยเด็กหญิงวัยขวบเศษติดในหลุมบ่อบาดาล โดยผ่านไป 10 ชั่วโมงยังช่วยไม่สำเร็จ ล่าสุดแม่เด็กเคราะห์ร้ายต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนบานขอให้ลูกสาวปลอดภัย เจ้าหน้าที่เร่งใช้เครื่องจักรกลหนักขุดรอบปากหลุม ลุ้นทุกวินาที ทีมแพทย์สนามเตรียมความพร้อมหวังปาฏิหาริย์มีจริงหลังมีเสียงเด็กร้องไห้ตกใจเสียงรถแบคโฮ
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.00 น. ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรพบพระ จังหวัดตาก รับแจ้งมีเหตุเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ 7 เดือน สัญชาติเมียนมา เกิดอุบัติเหตุระหว่างเล่นกองดินแล้วพลัดตกลงไปในหลุมเจาะบ่อบาดาล กลางไร่มันสำปะหลัง ในหมู่บ้านร่มเกล้าเจริญสุข หมู่ 13 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยหลังรับแจ้งเหตุหน่วยดับเพลิงเทศบาลนครแม่สอดพร้อมหน่วยกู้ชีพสมาคมพายัพและ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก สาขาแม่สอด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังเร่งไปช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังเป็นบริเวณกว้างใกล้กับสวนอะโวคาโด้ และพบกลุ่มแรงงานสัญชาติเมียนมาหลายคนกำลังรวมตัวกันอยู่ใกล้กับหลุมเจาะน้ำบาดาลที่เพิ่งขุดเจาะไปได้เพียงไม่กี่วัน และที่บริเวณปากหลุมเจาะบาดาลพบ นางอะเท อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา กำลังนั่งร้องไห้เกือบจะเป็นลม โดยมี นายเนโช อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นสามีคอยเข้าไปปลอบใจและดูแลภรรยาอย่างใกล้ชิด หลังเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ด.ญ.ตะส่า โมเอ อายุ 1 ปี 7 เดือน ลูกสาว ได้พลัดตกลงไปในหลุมเจาะบาดาล ระหว่างเดินเล่นใกล้กองดินบ่อบาดาล และยังไม่ทราบชะตากรรม
โดยใน เวลา 22.00 น. กองบังคับการควบคุม หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้จัดกำลังพล จำนวน 10 นาย จาก กองบังคับการควบคุม หน่วยเฉพาะกิจราชมนู และ กองร้อยทหารราบที่ 1423 โดยมี ร้อยเอก กรรวี กันจู ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 1423 ควบคุมการปฏิบัติ เพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 1 ขวบเศษ ชาวเมียนมาร์ ซึ่งพลัดตกหลุมเจาะบ่อน้ำบาดาล ความลึก 15เมตร ในสวนเกษตร ท้องที่ บ้านร่มเกล้าสหมิตร กม.48 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยการช่วยเหลือ ได้ใช้รถขุด ลงไปข้างหลุม และใช้กำลังพลเข้าช่วยทำการขุดโดยใช้มือ จากทางด้านข้าง เบื้องต้นเด็ก ยังมีชีวิตอยู่ แต่ยังไม่สามารถนำออกได้เนื่องจากเริ่มเป็นชั้นหินต้องใช้เครื่องสกัดหิน
ในเช้าวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 กองบังคับการควบคุม หน่วยเฉพาะกิจราชมนู รายงานความคืบหน้าจากกรณีอุบัติเหตุไม่คาดคิด เมื่อครอบครัวสองสามีภรรยา สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นแรงงานภาคเกษตร ได้อุ้มเด็กหญิง ตะส่า โมเอ บุตรสาวอายุ 1 ปี 7 เดือน ออกจากบ้านพักเดินทางไปทำงานรับจ้างขุดมันสำปะหลังภายในพื้นที่ หมู่บ้านร่มเกล้าเจริญสุข หมู่ที่ 13 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และระหว่างที่สองสามีภรรยา ทราบชื่อต่อมาชื่อนางอะเท อายุ 20 ปี และนายเนโช อายุ 26 ปี จังหวะที่สามีภรรยาและเพื่อนคนงานอีกหลายคนกำลังเร่งมือช่วยกันขุดหัวมันสำปะหลังอยู่นั้นได้ปล่อยตัวบุตรสาวของตนเองไปนั่งเล่นกองดินกับลูกเพื่อนคนงานจนเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นเมื่อเด็กหญิง ตะส่า โมเอ ได้หายตัวไปจากจุดนั่งเล่นกองดินแบบไร้ร่องรอยจนเพื่อนคนงานและพ่อแม่เด็กตามหาและพบว่าเด็กหญิงตะสา โมเอ ตกลงไปติดอยู่ในหลุมขุดเจาะบ่อบาดาลซึ่งมีปากหลุมกว้างเพียง 1 ฟุต มีความลึกหลายสิบเมตร จนมีการระดมทีมกู้ชีพกู้ภัยทั่วชายแดนจังหวัดตากมาช่วยเหลือ
เวลาผ่านไปนานกว่า 15 ชั่วโมง ทีมปฏิบัติการกู้ชีวิตเฉพาะกิจจากทุกหน่วยงานและอาสาสมัครนับร้อยนายต่างระดมกำลังเร่งหาวิธีช่วยเหลือเด็กหญิงรายนี้แบบไม่มีหยุดแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อเร่งทำงานกู้ชีพแข่งกับเวลาอันมีค่า
ขณะเดียวกัน นายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งเป็น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ในจุดเกิดเหตุได้ประชุมเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ สาธารณสุข และทีมอาสาสมัครทุกนาย ที่บริเวณศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจพร้อมตัดสินใจ ใช้รถแบคโฮ จำนวน 3 คัน เร่งเข้าไปตัก และเปิดหน้าดินใกล้กับปากหลุมบ่อบาดาล และการปฏิบัติการต้องใช้ความระมัดระวังขั้นสูงสุดและต้องไม่มีความผิดพลาดพร้อมส่งท่อส่งออกซิเจนหย่อนลงจากปากหลุมลงไปในจุดที่เด็กหญิงติดค้างในระยะ 15 เมตร เพื่อเติมอากาศหายใจ แต่ก็พบอุปสรรคเนื่องจากจุดที่ขุดดินนั้นพบชั้นหินจำนวนมาก แต่ความหวังก็ยังคงมีเนื่องจากตรวจพบว่าเด็กหญิงยังคงมีลมหายใจ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ซึ่งคาดว่าเด็กหญิงอาจจะหมดแรงจากการร้องไห้เป็นเวลานานหรืออาจจะนอนหลับ ซึ่งหลังเวลาผ่านไปนานแบบข้ามคืน นางอะเท มารดาของเด็กหญิงก็ยังคงร้องไห้อยู่ตลอดเวลาและมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ มีช่วงหนึ่งที่พบว่านางอะเท พร้อมนายเนโช สามี ได้เดินไปจุดธูปเทียนไหว้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขาให้ช่วยบุตรสาวของตนเองให้อยู่รอดปลอดภัย โดยมีทีมแพทย์สนามจากโรงพยาบาลอำเภอพบพระ เข้าไปดูแลปรับสภาพจิตใจนางอะเทอยู่ตลอดเวลา
ล่าสุดปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กหญิงรายนี้ ยังคงดำเนินการแบบไม่หยุดและทีมขุดตักหน้าดินสามารถเปิดหน้าดินรอบหลุมบ่อบาดาลได้สำเร็จแล้วและทีมช่างบ่อบาดาลได้นำท่อพีวีซีขนาดใหญ่เข้าไปสวมลงไปในหลุมเกิดเหตุเพื่อป้องกันดินไหลลงไปทับตัวเด็กหญิงและหลังใช้รถแบคโฮขุดตักดินได้ในระดับความลึกที่คาดว่าเด็กหญิงติดอยู่แล้วเจ้าหน้าที่จะต้องใช้แรงอาสากู้ภัยใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กขุดเข้าไปหาจุดที่เด็กหญิงติดอยู่ในเป็นขั้นตอนต่อไปซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ ซึ่งปฏิบัติการเป็นไปตามแผนที่วางไว้และต้องใช้ความระมัดระวังในทุกขั้นตอนโดยมีทีมอาสากู้ภัยเข้าตรวจหาสัญญาณชีพของเด็กหญิงเป็นระยะ ซึ่งทีมเจ้าหน้าที่ได้รับปากกับสองสามีภรรยาซึ่งเป็นพ่อแม่เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายว่าจะช่วยเหลือนำตัวบุตรสาวออกมาให้ได้ภายในคืนนี้และหวังให้ปาฏิหาริย์มีจริง
โดยล่าสุดในเวลา 07.00 น. โพรงระยะทาง 1.5 เมตร ทีมกู้ภัยจากทุกหน่วยงาน เจาะทะลุไปถึงท่อที่น้องอยู่แล้ว แต่พบว่าน้องอยู่ต่ำกว่าโพรงที่เราเจาะทะลุไปอีก 2.5 เมตร ตอนนี้ทีมงานต้องขุดลงไปอีกโดยใช้แรงงานคน ให้ลึกกว่าที่น้องอยู่ ไม่น้อยกว่า 2.5 เมตร ขณะเดียวกัน น้องก็ยังส่งเสียงร้องไห้ออกมาเป็นระยะ