ตม.จว.นราธิวาส ร่วมกับ จนท.ความมั่นคงในพื้นที่จับกุมแรงงานต่างด้าว 29 ราย
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
ตม.จว.นราธิวาส ร่วมกับ จนท.ความมั่นคงในพื้นที่จับกุมแรงงานต่างด้าว 29 ราย
ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพรผกก.ตม.จว.นราธิวาส พ.ต.ท.สุรชัย พงษ์สวัสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.นราธิวาส พ.ต.ต.กรัณฑ์วาริษฐ์ สมจันทร์ สว.ตม.จว.นราธิวาส ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.นราธิวาส บูรณาการร่วมกับ จนท.ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
โดยได้ร่วมกันจับกุมตัว 1. นายรอมือลี ยะโก๊ะ อายุ 44 ปี (3-9610-00039-19-2)ที่อยู่เลขที่ 121 ม.1 ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส
ในข้อหา “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ซ้อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม”และบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 29 ราย ประกอบด้วยชาย 21 คน หญิง 8 คน ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ทั้งนี้ในการจับกุมคนต่างด้าวรับว่าพวกตนได้ออกเดินทางจากบ้านมอเตา ประเทศเมียนมาฝั่งตรงข้ามกับ จว.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 3 ม.ค. 2565
เข้ามาประเทศไทยโดยการเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติโดยข้ามมายัง พรมแดนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไม่ทราบจุดแน่ชัด และได้นั่งรถมาเรื่อยๆโดยมีคนไทยให้การช่วยเหลือส่งต่อกันมาเป็นทอดๆและจัดการเรื่องยานพาหนะและสถานที่พักต่างๆ ซึ่งต้องจ่ายเงินคนละ 4,300,000 จ๊าด คิดเป็นเงินบาทไทยประมาณ 51,000 บาท โดยยังไม่ได้จ่ายจะจ่ายเมื่อถึงประเทศมาเลเซียแล้ว จนสุดท้ายได้มีผู้ต้องหาได้นำรถตู้ของกลางมารับชาวเมียนมาเพื่อไปส่งยังชายแดน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อข้ามไปทำงานที่ประเทศมาเลเชีย ระหว่างทาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้เรียกตรวจจึงแสดงตัวและจับกุมในที่สุด ก่อนที่ นายรอมือลี ยะโก๊ะ จะพาไปยังพรหมแดนไทย-มาเลเซียและช่วยเหลือให้หลบหนีเข้าไปยังประเทศมาเลเซียสำเร็จ โดยนายรอมือลี ยะโก๊ะจะได้รับค่าจ้าง 3,000 บาท เมื่อทำงานเสร็จ จึงได้ดำเนินการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยจับกุมตัวที่บริเวณบนถนนสายตากใบ-ตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ชุดสืบสวนฯ ทําการจับกุม สอบปากคําผู้ต้องหา รวมทั้งขยายผล ติดตาม จับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดต่อไป