เชื่อมโครงเหล็กต่อเติมที่เก็บของสะเก็ดไฟกระเด็นไปตกใกล้ถังทินเนอร์ไฟลุกท่วมอู่ซ่อมสีรถยนต์
เชื่อมโครงเหล็กต่อเติมที่เก็บของสะเก็ดไฟกระเด็นไปตกใกล้ถังทินเนอร์ไฟลุกท่วมอู่ซ่อมสีรถยนต์
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 มกราคม 2565 พ.ต.ต.กัณห์พิพัฒน์ ปันแสน สารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีดเหตุไฟไหม้อู่ซ่อมสีรถยนต์ นวลทองซัพพลาย เลขที่ 430 หมู่ 6 ถนนพุทธรักษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลแพรกษาและเทศบาลใกล้เคียงกว่า 10 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอู่ซ่อมสีรถยนต์ซึ่งปลูกสร้างเป็นเพิงสังกะสีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางวา ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้ที่บริเวณด้านหลังของอู่ซ่อมสีรถยนต์ดังกล่าวอย่างรุนแรงเนื่องจากภายในอู่ดังกล่าวมีการเก็บทินเนอร์และสีไว้ด้านหลังจำนวนมากจึงเกิดการระเบิดขึ้นและมีเปลวไฟลุกท่วมและลุกลามเข้าไปในห้องพ่นสีซึ่งมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กต 6958 กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นของเจ้าของอู่จอดอยู่ได้ถูกเปลวไฟลุกไหม้ด้านท้ายรถลามมาทางด้านหน้ารถอย่างรุนแรงและลุกลามไปลุกไหม้ร้านเก็บของเก่าซึ่งอยู่ด้านหลังอู่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าไฟได้เผาผลาญอู่ซ่อมสีรถยนต์ได้รับความเสียหายไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ รถยนต์เก๋งอีก 1 คัน รถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ร่วมทั้งห้องพักคนงานอีก 3 ห้องซึ่งอยู่ด้านหลังอู่ ส่วนร้านรับซื้อของเก่าซึ่งอยู่ด้านหลังได้รับความเสียหายเล็กน้อย
นายปรัชญา เรืองสา อายุ 21 ปี คนงานในอู่ซ่อมสีรถยนต์ดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเจ้าของอู่ได้ช่วยกันเชื่อมโครงเหล็กต่อเติมที่เก็บของภายในอู่ ในช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงพักเที่ยง ตนและเจ้าของได้หยุดเชื่อมและปิดเครื่องเชื่อม และกำลังไปล้างมือเพื่อที่จะกินข้าวเที่ยง ได้เห็นเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณในอู่ด้านหลัง ตนและชาวบ้านใกล้เคียงได้ช่วยกันเอาถังตักน้ำมาสาดเพื่อดับไฟ แต่สกัดไม่อยู่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีถังทินเนอร์และสีพ่นรถเก็บอยู่เป็นจำนวนมากจึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เกิดเปลวเพลิงลุกโหมอย่างรุนแรงและถังทินเนอร์ได้เกิดระเบิดขึ้นจนทำให้เกิดลูกไฟมาลุกไหม้ที่บริเวณท้ายของรถเก๋งซึ่งจอดอยู่ในห้องเก็บสีและไฟได้ไปลุกไหม้ถังน้ำมันเชื้อเพลิงท้ายรถทำให้เพลิงลุกโหมอย่างรุนแรงจึงได้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่นายสุนทร ทองดีนอก อายุ 50 ปี ชาวกาฬสินธุ์ เจ้าของอู่ซ่อมสีรถดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและคนงานได้ช่วยกันเชื่อมโครงเหล็กต่อเติมที่เก็บของภายในอู่ จนมาเกือบถึงบ่ายโมงจึงหยุดกินข้าว ระหว่างที่ตนกำลังเดินไปล้างมือในห้องน้ำ พอดีมองไปตรงจุดที่ตนเชื่อมเอาไว้ได้เห็นไปลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรุนแรงซึ่งเชื่อว่าสะเก็ดไฟน่าจะกระเด็นไปติดวัตถุที่ติดไฟง่าย ซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องพ่นสี แต่ไฟไม่ได้ไหม้ตรงจุดที่ตนเชื่อมแต่สะเก็ดไฟน่าจะกระเด็นเข้าไปด้านในอู่จึงไปลุกไหม้บริเวณด้านในอู่และลุกไหม้รุนแรงไหม้รถเก๋งของตนที่จอดอยู่ด้านในไปด้วยอีก 1 คันและรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสะเก็ดไฟที่เจ้าของอู่และลูกน้องเชื่อมเหล็กไว้อาจจะกระเด็นไปบนกองทีเป็นวัตถุติดไฟซึ่งตอนแรกอาจจะไม่เกิดเปลวไฟแต่พอความร้อนสะสมนานจึงเกิดเปลวไปลุกขึ้นมาและลามไปติดถังเก็บทินเนอร์และสีพ่นรถยนต์จึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้เชิญตัวเจ้าของอู่และคนงานมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
*** ภาพ – ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ ***