สภากาชาดไทย ร่วมนาวิกโยธิน กองทัพเรือ หน่วยแพทย์ทหาร และเครือข่าย ให้บริการทันตกรรมเข้าถึงประชาชน ภายใต้”โครงการ “สุขภาพดีใต้ร่มพระบารมี”
ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ นราธิวาส
สภากาชาดไทย ร่วมนาวิกโยธิน กองทัพเรือ หน่วยแพทย์ทหาร และเครือข่าย ให้บริการทันตกรรมเข้าถึงประชาชน ภายใต้”โครงการ “สุขภาพดีใต้ร่มพระบารมี”
( 5 มีนาคม 2562) ที่สโมสรร่มเกล้า กองพลทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธี จัดโครงการ “สุขภาพดีใต้ร่มพระบารมี” ในพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปนายิกา สภากาชาดไทย โดยมีนาวาเอกนิรัตน์ ทากุดเรือ ผู้บังคับการ หน่วยนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ให้การต้อนรับ และกล่าวรายงาน วัตถุประสงค์ในการจัดโครงการในครั้งนี้ โดยมี ม.ร.ว. จิยากร อาภากร เสสะเวช ผู้บริหารมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย มาร่วมเป็นเกียรติ พร้อมด้วย กรมกิจการพลเรือนและกรมแพทย์ของ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ, มูลนิธิ แมคแฮปปี้แฟมิลี่ มูลนิธิทันตแพทย์เอกชน (ประเทศไทย), โรงพยาบาลทันตกรรม มหาจักรีสิรินธร, ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด, สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส
ซึ่งโครงการ “สุขภาพดีใต้ร่มพระบารมี” ในครั้งนี้ จัดให้มีกิจกรรมตรวจรักษาสุขภาพฟันให้กับเด็ก อายุ 8-18 ปี ที่ด้อยโอกาสและห่างไกลการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรม ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการแก่เด็กด้อยโอกาสที่มีปัญหา ด้านทันตกรรม รวมถึงการตรวจสุขภาพให้กับเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส เป็นการให้บริการโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เปิดบริการ ในระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม 2562
ทั้งนี้มีกลุ่มเป้าหมายรับบริการ จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะยากจน และด้อยโอกาส เพื่อเป็นบริการทางด้านสาธารณสุขให้สามารถเข้าถึงกับประชาชน ในการส่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพฟันให้กับเด็ก และเยาวชน นำความรู้ไปใช้ในการดูแลสุขภาพฟันในชีวิตประจำวัน และพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน ภายใต้โครงการ “สุขภาพดีใต้ร่มพระบารมี” ดังกล่าว
พร้อมกันนี้ ทาง ม.ร.ว. จิยากร อาภากร เสสะเวช ผู้บริหารมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย นาเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นาเอกนิรัตน์ ทากุดเรือ ผบ.ฉก.นย.ทร. และผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมกัน ปล่อยพันธ์ปลากะพงขาวจำนวน 20,100 ตัว สู่ธรรมชาติ ลงสู่ทะเลนราธิวาส ฝั่งอ่าวไทย ณ.ศาลาเกยหาด ภายในค่ายจุฬาภรณ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายพันธ์ และรักษาระบบนิเวศน์วิทยาในท้องทะเลให้เกิดความสมดุลต่อไป