ครูโคราช -ชัยภูมิ 68 คน นัดสำแดงพลัง “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ขอความเป็นธรรมคดีทุจริตคดีสนามฟุตซอลฉาว

ครูโคราช -ชัยภูมิ 68 คน นัดสำแดงพลัง “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ขอความเป็นธรรมคดีทุจริตคดีสนามฟุตซอลฉาว

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 สิงหาคม ที่ห้องประชุมใหญ่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 (สพป.นม.1) พร้อมพวกรวม 68 คน ทั้งหมดเป็นอดีตและดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา (สพป.นม.) ทั้ง 6 เขต สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 นครราชสีมา (สพม.31 นม.) โรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัด ซึ่งได้รับกระทบจากมติ ปปช. ตั้งข้อกล่าวหาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2554 ได้นัดประชุมหารือและรับฟัง ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา ที่ปรึกษาชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา ชี้แจงการต่อสู้คดีกรณีทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ของสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มูลความเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นรูปแบบ “พลิกกระดาน” ไม่อุทธรณ์ ไม่ยื่นศาลปกครองแต่ทำให้รอดคดีได้ยกตัวอย่างพี่น้องครู จ.ชัยภูมิ เขต 3 ที่ประสบความสำเร็จมาเป็นโมเดล

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ลงนามในคำสั่ง สพฐ. โดยอาศัยอำนาจตามาตรา 98 มาตรา 100 วรรคสีและวรรคห้าและมาตรา 102/1 แห่ง พ.ร.บ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและมาตรา 98 แห่ง พ.ร.บ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ 2561 ประกอบกับระเบียบ ก.ค.ศ ว่าด้วยวันออกจากราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ 2548 จึงให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ ซึ่งเป็นผู้บริหารในสังกัด สพป.นม.2 จำนวน 5 คน ตามไทม์ไลน์ภายในเดือนสิงหาคมนี้ คำสั่งต่อไปจะเป็นคิวของผู้เกี่ยวข้องในสังกัด สพป.นม ทั้ง 5 เขต และ สพม.31 นม. การถูกคำสั่งไล่ออกถือเป็นการพ้นจากสภาพการเป็นข้าราชการและไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จ บำนาญ ซึ่งต้องคืนเงินนับตั้งแต่วันครบเกษียณราชการและผู้ที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบันก็ต้องออกจากตำแหน่งทันที ซึ่งมีหลายคนดำรงตำแหน่งเป็น ผอ.สพป.นม. โรงเรียนประถมและโรงเรียนมัธยมชื่อดังประจำจังหวัดนครราชสีมา ท่ามกลางบรรยากาศค่อนข้างเคร่งเครียด ได้นำคลิปอดีต ผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน สังกัด สพป.นม.2 มาเปิดให้ดู ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหว เด็กนักเรียนและผู้ใต้บังคับบัญชามาให้กำลังใจและบอกลากันด้วยน้ำเสียงร่ำไห้และติดป้ายไวนิลบริเวณหน้าเวที เขียนข้อความว่า “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มนุษย์ยอมทนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นความอยุติธรรมจะทนไม่ได้” กลุ่มผู้ถูกกล่าวหามีสีหน้าไม่สบายใจ พูดคุยปรับทุกข์พยายามทำใจรับสภาพกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หลายคนมีปัญหาสุขภาพต้องกินยานอนหลับเป็นประจำและผลกระทบคุณภาพชีวิตกลายเป็นคนเก็บกดไม่ออกไปพบปะสังคม จากนั้นได้ร่วมกันร้องเพลงครูในดวงใจและเพลงคำวอนก่อนลา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมแก่วิชาชีพครู

ดร.ปิยะพัชร์ ที่ปรึกษาชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของ ปปช.ที่มีคำสั่งไม่เป็นธรรมกับครูและบุคลากร เราพร้อมต่อสู้และเคลื่อนไหวให้ถึงที่สุด บนพื้นฐานของสิทธิตามรัฐธรรมนูญและกรอบของกฎหมายพร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรา ได้แก่ ปปช. และกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกิดความเป็นธรรม ขอยืนยันเรามิได้เรียกร้องเกินไปกว่าสิทธิ์อันพึงมีของเรา เราขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั้งประเทศ ให้ได้รับทราบถึงความลำบากความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เพราะการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอวิงวอนไปถึงผู้ที่มีอำนาจในบ้านนี้เมืองนี้ หากเพิกเฉย พวกเรายังไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องเคลื่อนไหวตีแผ่ข้อมูลให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นการต่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายให้ครูมีพลังต่อสู้เพื่อสิทธิของครูและความยุติธรรม

อำนาจ อภัยภักดี ข่าวภาพนครราชสีมา