รัฐบาลชวนประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มหลักและเข็มกระตุ้นที่ รพ.สต. ใกล้บ้าน ถือเป็นมาตรการสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด – 19 ในประเทศ
รัฐบาลชวนประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มหลักและเข็มกระตุ้นที่ รพ.สต. ใกล้บ้าน ถือเป็นมาตรการสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด – 19 ในประเทศ
.
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 ในไทย จะลดระดับการแพร่ระบาดและสามารถควบคุมได้ โดยแต่ละจังหวัดต้องครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 กำชับให้ความสำคัญประชาชนได้รับวัคซีน โดยทุกกลุ่มควรต้องได้รับวัคซีนทั้งเข็มหลักและเข็มกระตุ้นอย่างครอบคลุม (Universal Vaccination) ถือเป็นหนึ่งในมาตรการหลักในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด – 19
.
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 มีความครอบคลุมเข็มกระตุ้นเพียงร้อยละ 41 จึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้เข้ารับวัคซีนทั้งเข็มหลักและเข็มกระตุ้นในสถานพยาบาล หรือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน ซึ่ง สธ. ได้มีการกระจายวัคซีนไปยัง รพ.สต. ทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ประชาชนเข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง สะดวก และรวดเร็ว เพื่อให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย
.
อนึ่ง กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งวัคซีนโควิด 19 ทั้งซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ไปยัง รพ.สต. ซึ่งเป็นหน่วยบริการที่ใกล้บ้าน และให้บริการแบบ walk in ทุกจุดฉีด เพื่อให้สะดวกในการนำผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงไปฉีดวัคซีนใกล้บ้าน พร้อมทั้งเร่งสื่อสาร เชิญชวนให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมถึงเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปด้วย โดยวัคซีนจำนวน 16.7 ล้านโดส สำหรับ รพ.สต. จะทยอยส่งเป็นรอบๆ ไปที่คลังวัคซีน เพียงแห่งเดียวในแต่ละจังหวัด ซึ่งอาจเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และมีการประสานตรวจสอบวัคซีนคงคลังกับแต่ละจังหวัดก่อนส่งเสมอ
.
ส่วนการกระจายวัคซีนไปที่ รพ.สต. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะจัดส่งตามศักยภาพการฉีดและความจุของตู้เย็นแต่ละ รพ.สต. จึงไม่มีปัญหาเรื่องวัคซีนจะล้นตู้เย็น
.
#ข่าวจริงประเทศไทย #โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล #วัคซีนเข็มโควิด #นโยบายสาธารณสุข