โจรใต้วางแผนลวงยิงฐานก่อนวางระเบิดซ้ำ จนท.ขณะตรวจที่เกิดเหตุ ผู้การทหารรอดตายหวุดหวิดยืนจุดระเบิด
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
โจรใต้วางแผนลวงยิงฐานก่อนวางระเบิดซ้ำ จนท.ขณะตรวจที่เกิดเหตุ ผู้การทหารรอดตายหวุดหวิดยืนจุดระเบิด
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ก.ค. 63 ขณะที่ ร.อ.สมจิตต์ สุวรรณชาตรี ผบ.ร้อย ทพ. 4802 และ ด.ต.อุดรภูมิ สมานวงศ์ หน.ฐานปฏิบัติการประชารัฐสามัคคี รวมทั้งผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานปฏิบัติการประชารัฐสามัคคี ซึ่งตั้งอยู่บ้านเจาะน้ำใส ม.3 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เหตุเกิดขึ้นในช่วง 21.20 น.ของคืนที่ผ่านมา บริเวณภายในอาคารกองร้อย เพื่อรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จู่ๆได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว จนเจ้าหน้าที่ทหารและ นปพ.ประจำฐานปฏิบัติการ ต่างพากันหมอบลงกับพื้น และกำลังอีกส่วนหนึ่งได้แยกย้ายหาที่กำบัง เพื่อยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย จนเวลาผ่านไป 1 นาที พบว่าเสียงระเบิดดังกล่าว เกิดขึ้นริมถนนด้านซ้ายมือของฐาน ซึ่งห่างไป ประมาณ 100 เมตร ด.ต. อุดรภูมิ หน.ฐานปฏิบัติการ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นให้ทราบ ก่อนที่จะนำรถยนต์ของหน่วยไปปิดกั้นการจราจรบริเวณหน้าฐาน
ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.อาภากร วิรุปักษ์อารักษ์ ผกก.สภ.สุไหงปาดี พ.อ.เอกพล เลขนอก ผบ.กรม.ทพ.48 และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ. กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ร.ต.อ.ทัศนัย ทองสีนวล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงปาดี รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้ร่วมกันเดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และพบว่า ที่บริเวณโคนต้นไม้ใหญ่ริมทาง มีหลุมระเบิด ลึก 2 ฟุต กว้าง 3 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิงสีฟ้าของประเทศมาเลเซีย น้ำหนัก 25 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจุดที่ 2 ซึ่งห่างจากจุดระเบิดไป ประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานปฏิบัติการประชารัฐสามัคคีในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจสอบวัตถุโลหะในการสแกนพื้นที่โดยรอบ และพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 จำนวน 15 ปลอก ในส่วนของฐานปฏิบัติการนั้น เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 ของเจ้าหน้าที่ที่ใช้ยิงตอบโต้ ตกอยู่ที่บริเวณรั้วด้านซ้ายมือของฐาน และบริเวณป้อมยามหน้าฐานจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน ด.ต.อุดรภูมิ สมานวงศ์ หน.ฐานปฏิบัติการประชารัฐสามัคคี เปิดเผยว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถ จยย.เป็นพาหนะเมื่อผ่านหน้าฐานไปได้ ประมาณ 150 เมตร คนร้ายได้จอดรถบริเวณริมถนนและได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 ยิงถล่มใส่ฐาน ตนจึงได้ตะโกนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหาที่กำบัง และใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย นานประมาณ 2 นาที จนคนร้ายทั้ง 2 คน อาศัยความมืดขี่รถ จยย.หลบหนีไป พร้อมรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุในช่วงเช้า
นอกจากนี้ ด.ต.อุดรภูมิ สมานวงศ์ หน.ฐานปฏิบัติการประชารัฐสามัคคี ยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า ในช่วงเวลาประมาณ 07.00 น.เช้าวันนี้ พ.อ.เอกพล เลขนอก ผบ.กรม.ทพ.48 ได้เดินทางมาพูดคุยกับตนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และท่านได้เดินไปยังจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด เพื่อดูร่องรอยจุดที่คนร้ายซุ่มยิงใส่ฐาน และท่านได้ขอตัวไปร่วมงานบรรพชาหมู่ที่วัดประชุมชลธารา ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6 ก.ม. และเมื่อท่านไปแล้ว ร.อ.สมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.4802 รวมทั้งผู้สื่อข่าว ได้เดินทางมาพบตนและพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จู่ๆก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ซึ่งสันนิษฐานว่าคนร้ายจะใช้อาวุธปืน เอ็ม.79 ยิงใส่ฐาน ทำให้ ร.อ.สมจิต์ รอง ผบ.ร้อย ทพ.4802 ผู้สื่อข่าวและตน หมอบลงกับพื้นและหาที่กำบัง ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชา ต่างพากับวิ่งหาจุดกำบังเพื่อเตรียมยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย จนมาทราบอีกครั้งว่า เป็นเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณจุดที่คนร้ายก่อเหตุในช่วงคืนที่ผ่านมา
ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นคนร้ายได้วางแผนเป็นอย่างดี ด้วยการใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่ฐาน เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในช่วงเช้า ด้วยการลอบวางระเบิดซ้ำเพื่อจุดชนวนดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แต่คาดว่าเกิดความผิดพลาดที่ระเบิดทำงานก่อน จึงทำให้เจ้าหน้าที่รอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
ด้าน พ.อ.เอกพล เลขนอก ผบ.กรม.ทพ.48 ได้กล่าวแบบที่เล่นทีจริงว่า ตนถือว่าโชคยังดีที่ช่วงเช้าไปยืนตรงจุดที่คนร้ายจุดชนวนระเบิดพอดี เพื่อหาร่องรอยปลอกกระสุนปืนของคนร้ายที่ใช้ยิงถล่มใส่ฐาน ซึ่งคาดว่าในเวลาดังกล่าวคนร้ายที่ทำหน้าที่จุดชนวนระเบิดเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ยังคงเตรียมตัวไม่พร้อมที่จะจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำมาวางไว้ หรืออาจจะแฝงตัวเดินทางมาไม่ถึงจุดเกิดเหตุ จึงทำให้ตนรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด