ชมรมคนรักในหลวงร่วมกับชมรมปกครองท้องถิ่นและชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองศรีสะเกษ 2,000 คน ใส่เสื้อเหลืองชูธงปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ชมรมคนรักในหลวงร่วมกับชมรมปกครองท้องถิ่นและชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองศรีสะเกษ 2,000 คน ใส่เสื้อเหลืองชูธงปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เวลา 09.00 น. ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำชมรมคนรักในหลวงร่วมกับชมรมปกครองท้องถิ่นชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอสม. เครือข่ายวัฒนธรรม เครือข่ายสันนิบาตเทศบาลจังหวัดศรีสะเกษ เครือข่ายกองทุนแมุ่ของแผ่นดิน เครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน คิด ทำ นำ เปลี่ยนและพสกนิกรชาวอำเภอในจังหวัดศรีสะเกษ โดย มีนายแสวง เชื้อทอง ประธานชมรม อบต. จังหวัดศรีสะเกษ นายวีระชัย จักรวรรณพร ประธานชมรมวิสหกิจชุมชนจังหวัดศรีสะ นายบุญเพ็ง ศรีนวล นากสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดศรีสะเกษ นายศุภกิจ ยืนยาว ประธาน อสม.จังหวัดศรีสะเกษ สมาชิกชมรมคนรักในหลวงอำเภอเมืองศรีสะเกษ ประชาชนและนักเรียนในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ จำนวนประมาณ 2,000 คน ร่วมกันชูถือธงชาติและฉายาลักษณ์ ในหลวงร 9 รัชกาลที่ 10 และอ่านแถลงการณ์ กล่าวคำปฏิญาณตนว่าจะจงรักภักดี และประกาศจุดยืนว่าขอเรียกร้องให้ทุกคนได้ร่วมปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งนี้เพื่อปกป้องสถาบันฯและแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
หลังจากนั้น นายวีระชัย จักรวรรณพร ประธานชมรมวิสหกิจชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้ยื่นหนังสือปิดผนึกต่อนายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นการป้องป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วเดินทางกลับด้วยความสงบเรียบร้อย
นายวีระชัย จักรวรรณพร ประธานชมรมวิสหกิจชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เหคุการณ์ชุมนมที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความวุ่นวายและสร้างความแตกแยกในหมู่คณะของจังหวัดศรีสะเกษเป็นอย่างมาก ในฐานะประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ จึงมีเห็นว่าควรจะแสดงออกเป็นสัญญลักษณ์ให้ทราบว่า ยังมีกลุ่มบุคคลประชาชนชาวศรีสะเกษเป็นจำนวนหลายหมื่นคน ที่ไม่เห็นด้วยต่อการแสดงออกต่อการล่วงละเมิดต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และขอให้สมาชิกชมรมคนรักในหลวงอำเภอจังหวัดศรีสะเกษ และ พ่อค้าประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกันเพื่อป้องป้อง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่สืบไป
***************
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ