ภารกิจต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 6 ผู้ก่อเหตุรุนแรงยังไม่ยอมมอบตัว ทั้งที่เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามแล้วแต่ยังไร้พล ล่าสุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจเสียชีวิต 1 นาย
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
ภารกิจต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 6 ผู้ก่อเหตุรุนแรงยังไม่ยอมมอบตัว ทั้งที่เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามแล้วแต่ยังไร้พล ล่าสุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจเสียชีวิต 1 นาย
วันนี้ 3 ตุลาคม 2564 เข้าสู่วันที่ 6 ของภารกิจปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย บ้านฮูแตยือลอ ตำบลบาเระใต้ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ยังไร้วี่แววของผู้กระทำผิดเข้ามอบตัว ทั้งที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามเกลี้ยกล่อม และเชิญผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ครอบครัว เข้าเจรจาแต่ก็ยังไร้ผล มีการปะทะกันเป็นระลอก ล่าสุดจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย คือ ร้อยโท กฤษณะ เพ็ชรจำรัส กำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ยังคงใช้ความพยายามสร้างสถานการณ์ก่อเหตุต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา หวังเบี่ยงเบนความสนใจต่อกำลังเจ้าหน้าที่จากการปิดล้อมบ้านฮูแตยือลอ
โดยในวันนี้ เวลา 14.00 น. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดให้มีพิธีวางหรีดเคารพศพ และรดน้ำศพ ร้อยโท กฤษณะ เพ็ชรจำรัส ที่วัดบางนรา อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ก่อนทำพิธีส่งศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนาบ้านเกิดจังหวัดพัทลุง ต่อไป
จากเหตุการดังกล่าว แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลดังกล่าว นับเป็นการสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และน่าสลดใจที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
จะต้องสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข และประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ด้วยความเสียสละและทุ่มเท ซึ่งผมขอยกย่องและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกนาย ในการทำหน้าที่ด้วยอุดมการณ์ ด้านสวัสดิการและการดูแลครอบครัวผู้เป็นแนวหลังของ ร้อยโทกฤษณะฯ ได้กำชับให้หน่วยงานต้นสังกัด ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ โดยจะเห็นว่าในห้วงเวลาดังกล่าวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีความพยายามก่อเหตุ และปรับเปลี่ยนวิธีการ สร้างกลลวง เบี่ยงเบนความสนใจต่อเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา แต่เพื่อความมั่นคงปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะยังคงมุ่นมั่นในการรักษาความปลอดภัย คุมเข้มทุกพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงตามขั้นตอนปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก อาศัยความร่วมมือจากผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และครอบครัว เกลี่ยกล่อมเจรจา ให้ยอมมอบตัว เพราะไม่มีฝ่ายไหนต้องการให้เกิดการสูญเสีย และสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจต่อผู้ที่หลงผิด แนวร่วมผู้สนับสนุนด้วยว่า การให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นที่พักพิง แหล่งหลบซ่อนจัดหาเสบียง ให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงนั้น จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอให้ช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐหากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-1732999 และเบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง